18 มิ.ย.68 - คณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนของรัฐสภา ชูโมเดลอังกฤษ Safe System เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยทางถนนไทย เสนอตั้งกลไกถาวรของรัฐสภา - ใช้กล้อง CCTV - ABS พร้อมผลักดันเป็นวาระการปฏิบัติของชาติ ลดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืน

 

image

         นายนิกร จำนง ประธานอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยนายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย และ นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร อนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและยานพาหนะ ในคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนของรัฐสภา ร่วมกันแถลงสรุปผลการศึกษาดูงานด้านความปลอดภัยทางถนน ณ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 8-15 มิถุนายน 2568 หลังพบหารือกับหน่วยงานหลักของอังกฤษ อาทิ สภาที่ปรึกษารัฐสภาด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (PACTS) และกระทรวงคมนาคมอังกฤษ (DFT)
         โดย นายนิกร กล่าวว่า การศึกษาดูงานครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญ คือ การศึกษาระบบการจัดการความปลอดภัยทางถนนในสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นประเทศต้นแบบในการลดอุบัติเหตุทางถนนด้วยแนวทางที่เน้นความปลอดภัยอย่างครอบคลุมและมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยหนึ่งในโมเดลที่ได้รับการยกย่องในสหราชอาณาจักรคือระบบ “Safe System” หรือ “ระบบความปลอดภัยตลอดทาง” ซึ่งเป็นแนวทางที่มีการผสมผสานระหว่างการออกแบบถนน การใช้เทคโนโลยี และการบังคับใช้กฎหมายที่เน้นการป้องกันความผิดพลาดจากผู้ขับขี่ โดยหลักการของระบบนี้จะมุ่งลดผลกระทบที่อาจเกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่, ถนน, หรือรถยนต์ และลดการบาดเจ็บร้ายแรงจากอุบัติเหตุ ยกตัวอย่างเช่น สหราชอาณาจักรกำหนดความเร็วในเขตเมืองให้ต่ำสุดที่ 20 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้เดินทางหรือเด็ก ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีมาใช้ ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ตรวจจับความเร็วของรถยนต์และสามารถจับภาพผู้ฝ่าฝืนกฎหมายได้ รวมถึงกล้องที่ตรวจจับการฝ่าไฟแดงและการขับรถโดยมีแอลกอฮอล์ในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบ AI เพื่อช่วยในการตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้รถบนท้องถนน พร้อมจัดอบรมผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎจราจรแทนการปรับเงิน โดยการอบรมนี้มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาว เช่น การฝึกผู้ขับขี่ที่มีความผิดปกติในการขับขี่ หรือผู้ขับขี่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ในการขับขี่ ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงได้เตรียมเดินหน้าแผนปฏิบัติการเชิงรุกใน 4 มิติหลัก โดยเริ่มจากการเสนอรายงานต่อประธานรัฐสภา เพื่อจัดตั้งองค์กรถาวรด้านความปลอดภัยทางถนน ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย ติดตาม และประเมินผลอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสนอให้นำประเด็นนี้ขึ้นเป็นวาระการปฏิบัติของชาติ เพื่อให้หน่วยงานทุกระดับบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ส่วนในด้านการสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม จะผลักดันการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วประเทศ บังคับใช้ระบบเบรก ABS ในรถจักรยานยนต์ และยกระดับมาตรฐานหมวกนิรภัย ควบคู่กับการจัดประชุมวิชาการระดับชาติ “PACTS Thailand ครั้งที่ 2” และการขยายแนวคิด Safe System สู่การปฏิบัติในพื้นที่ผ่านจังหวัดต้นแบบ ขณะเดียวกันยังเตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนโลก วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เพื่อสร้างจิตสำนึกและความร่วมมือในสังคม พร้อมย้ำว่า หากแผนงานเหล่านี้ได้รับการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง จะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนของประเทศ และลดการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
          ด้าน นายศุภชัย ได้กล่าวถึงความสำเร็จของสหราชอาณาจักรในการลดอุบัติเหตุ ว่า สหราชอาณาจักรสามารถลดจำนวนอุบัติเหตุลงได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยจำนวนอุบัติเหตุในสหราชอาณาจักรน้อยกว่าในประเทศไทยถึง 10 เท่า ซึ่งหลักสำคัญในการลดอุบัติเหตุ คือ การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตรวจจับการกระทำผิด เช่น กล้องวงจรปิด (CCTV) และ AI มาใช้ในการตรวจจับความเร็วและการฝ่าฝืนกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีการส่งค่าปรับไปยังบ้านของผู้กระทำผิดทันที พร้อมทั้งการอบรมสำหรับผู้ที่ทำผิดกฎจราจรที่ไม่ร้ายแรง เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถปรับทัศนคติและปฏิบัติตามกฎจราจรได้ดีขึ้น ทั้งนี้ การบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยปัจจุบันยังไม่เคร่งครัดเพียงพอ แต่หลังจากวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยการเพิ่มการตรวจจับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร เช่น การไม่สวมหมวกนิรภัยและการขับรถเร็วเกินกำหนด เป็นต้น พร้อมเน้นย้ำว่า การลดอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยจะสำเร็จได้ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและประชาชน โดยการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนได้
      ขณะที่ นพ.อนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่สหราชอาณาจักรสามารถลดอุบัติเหตุทางถนนจาก 20,000 ราย เหลือ 1,000 ราย ด้วยการบังคับใช้ระบบ Safe System ที่ครอบคลุมทั้งระดับรัฐสภาและท้องถิ่น ได้สะท้อนให้เห็นถึงการปรับโครงสร้างถนน การส่งเสริมการใช้รถสาธารณะ และการควบคุมความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญในการลดอุบัติเหตุ โดยการออกแบบถนนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและการใช้เทคโนโลยีในยานพาหนะ เช่น ระบบเทเลเมทริกซ์ในรถยนต์ และระบบเบรก ABS ในมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ซึ่งตนเชื่อว่า หากนำแนวทางเหล่านี้มาปรับใช้ในประเทศไทยร่วมกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จะสามารถลดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตได้ พร้อมทั้งช่วยบรรเทาภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยการร่วมมือจากทุกฝ่ายในสังคมจะสร้างความปลอดภัยในการเดินทางได้อย่างยั่งยืน

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ