หัวหน้าพรรคประชาชน ย้ำจุดยืนพรรคไม่ขัดขวางการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ แต่ยึดหลักความจำเป็น

            นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงจุดยืนพรรคต่อการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ว่า พรรคประชาชนไม่เคยต่อต้านการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความจำเป็น เพียงแต่ต้องดูเป็นรายกรณีว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาพรรคประชาชนไม่เคยขัดขวางการจัดซื้ออาวุธที่จำเป็น ซึ่งปัจจุบันมีภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ ตนเองไม่สามารถตอบได้ว่ายุทโธปกรณ์ใดที่เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมต่อการป้องกันภัยความมั่นคง เป็นหน้าที่ของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องเสนอเรื่องขึ้นมา เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา 

            หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงจุดยืนของพรรคต่อกองทัพ คือพร้อมสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพในการปกป้องประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยที่กองทัพจะไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เห็นด้วยหากทำกองทัพให้ทันสมัย เพิ่มสวัสดิการทหารชั้นผู้น้อย อนุมัติงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความจำเป็น ตอบโจทย์ต่อยุคสมัย พรรคประชาชนพร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่นอกเหนือหลักการเหล่านี้ คือหากกองทัพไปยุ่งเกี่ยวการเมือง หรือบทบาทของกองทัพที่วางตัวอยู่ในบทบาทเกี่ยวข้องกับการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งควรเป็นบทบาทของรัฐบาล สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันปรับว่าจะทำอย่างไรให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน และรัฐบาลพลเรือนมีบทบาทนำในการควบคุมสั่งการกองทัพในทุกเรื่อง ส่วนกรณีของนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพาดพิงกองทัพ ทางเจ้าตัวได้มีการชี้แจงและขอโทษสังคมไปแล้ว ขณะเดียวกันในส่วนของพรรคได้ดำเนินการทางวินัยอย่างได้สัดส่วนไปแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามพรรคประชาชนพร้อมน้อมรับเสียงสะท้อนไปปรับปรุง น้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ และยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกอย่างโดยไม่ได้ปกป้องคนของตัวเอง พร้อมหวังให้ประชาชนติดตามการทำงานของพรรคประชาชนต่อไปในอนาคต

            นายณัฐพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่าในช่วงเวลานี้ตนขอให้กำลังใจประชาชน และขอย้ำว่าตนและพรรคประชาชนมีความรู้สึกรักประเทศไม่ต่างจากทุกคน เพียงแต่ในการดำเนินการของประเทศต้องเป็นไปตามหลักสากลด้วย เพื่อทำให้ประเทศไทยได้เปรียบกัมพูชาในเวทีโลก เชื่อว่าสิ่งที่จะเอาชนะศึกนี้ได้ คือ ความจริง และการยึดหลักกติกาสากล ไทยต้องไม่ใช้อำนาจที่เหนือกว่า หรือกองกำลังที่เหนือกว่า ไปข่มเหง ฝ่ายตรงข้าม เพราะเมื่อไหร่ที่ทำแบบนั้นจะทำให้ขาดการยอมรับจากเวทีนานาอารยประเทศ สิ่งสำคัญตอนนี้คือการแสดงออกว่ามีกองทัพที่เข้มแข็ง พร้อมปกป้องประเทศ และเป็นประเทศที่มีวุฒิภาวะ อันจะทำให้ไทยได้รับการยอมรับจากสากล หากเป็นเช่นนั้นไทยจะได้รับการยอมรับและเสียงจะมีความหมายต่อเวทีโลก

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง