รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์

          นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานในพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์  โดยมี พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะผู้แทนประธานวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สว. คณะกรรมการมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี คณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา (ก.ร.) เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ผู้กำกับการ สน.บางโพ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภา บุคลากรในวงงานรัฐสภา ทั้งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ด้านถนนสามเสน) อาคารรัฐสภา
          โดยเวลา 07.00 น. นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานอนุกรรมการเคลื่อนย้ายพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ได้นำถวายผลไม้และพวงมาลัย ณ ศาลพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระภูมิชัยมงคล และศาลตา - ยาย จากนั้น จึงเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ (องค์เดิม) ณ พิพิธภัณฑ์รัฐสภา ชั้น MB1
          สำหรับพิธีการบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ มีนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง เป็นผู้นำในพิธีฯ
          จากนั้นเวลา 8.09 น. ประธานในพิธีหลั่งน้ำเจิมพระบาท ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้จำนวน 3 ครั้ง บนพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งจุดธูปเทียนด้านหน้าโต๊ะบวงสรวง และเดินวนไปทางขวา ปักธูป บนเครื่องบวงสรวงจานละ 1 ดอก บายศรี 3 ดอก เมื่อครบแล้ว หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง จึงได้อ่านโองการบวงสรวง
          ต่อมาเป็นการอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ขึ้นประดิษฐาน บนพระที่นั่งพุดตาน โดยประธานในพิธีและตัวแทนผู้เข้าร่วม ร่วมจับสายสิญจน์ที่เชื่อมโยงกับพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อเสร็จเรียบร้อย ได้ทำการวางพานพุ่มดอกไม้ จุดธูป เทียนเครื่องทองน้อย ถวายความเคารพ เป็นอันเสร็จพิธี
          สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์ใหม่ ออกแบบให้มีขนาด 4 เท่าของพระองค์ ทรงเครื่องบรมราชสิตาภรณ์ (เครื่อง-บอ-รม-มะ-ราด-ชะ-สิ-ตา-พอน) ฉลองพระองค์ครุย สวมพระชฎามหากฐิน ปักขนนกการเวก ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ พระหัตถ์วางเหนือพระเพลาทั้งสองข้าง จัดสร้างให้คล้ายกับเมื่อวันที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม  เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของประเทศไทย 

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง