นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มีความก้าวหน้าหลังจากได้ประชุมไป 3 ครั้ง โดยเมื่อวานนี้ (19 ก.ย. 68) คณะทำงานได้ประชุมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญที่ได้ยกร่างไปแล้วและได้ให้ฝ่ายเลขาธิการพรรคไปปรับแก้ เพราะเบื้องต้นร่างของพรรคเพื่อไทยเสร็จแล้ว เพียงแต่มีข้อทักท้วงที่ต้องปรับแก้ไข โดยยึดหลักการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพราะไม่อยากให้เป็นปัญหา และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มุ่งเน้นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น คือ เพิ่มหมวด 15/1 ตามมาตรา 256 ไม่ไปปรับแก้ในประเด็นอื่น เพราะระยะเวลามีไม่มาก จึงเน้นที่การจัดทำรัฐธรรมนูญ และสิ่งที่ต้องคำนึง คือ ผู้ยกร่างจะเป็นใคร โดยที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ต้องไม่ให้ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงใช้วิธีเลือกทางอ้อม ขณะนี้วางไว้ที่ 140 - 150 คน เนื่องจากมีองค์กรต่าง ๆ ที่ยังขาดหายไป และแบ่งที่มาออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่ง มาจากแต่ละจังหวัดให้ได้ทำการเลือกเบื้องต้น โดยคำนวณจากฐานประชากรกำหนดส่วนนี้ไว้ที่ 100 คน ซึ่งตัวแทนผู้สมควรได้รับการคัดเลือกจะให้เสนอมาเป็น 2 เท่า ของโควตาแตาละจังหวัด เช่น จังหวัดน่าน ต้องมี ส.ส.ร. 2 คน ให้ส่งตัวแทนมา 4 คน ส่วนจังหวัดที่ค่าเฉลี่ยประชากรไม่ถึง 1 คน จะให้ส่งตัวแทนมา 2 คน และส่วนที่สอง มาจากองค์กรต่าง ๆ ให้ส่งตัวแทนมาและผ่านการแต่งตั้งของสภาผู้แทนราษฎร โดยเมื่อได้ทั้ง 2 ส่วนมาแล้ว รัฐสภาจะเป็นผู้แต่งตั้ง
นายแพทย์ ชลน่าน ยังกล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยด้วยว่า ดูจากเวลาแล้วจะเสร็จทันภายในสัปดาห์หน้า หากไม่มีปัญหาอุปสรรคอื่น และดูจากกรอบเวลาที่กระชับที่สุด การพิจารณาในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ อย่างช้าต้องไม่เกินวันที่ 29 ตุลาคม นี้ เพราะสภาผู้แทนราษฎร จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 31 ตุลาคม และเปิดสมัยในวันที่ 12 ธันวาคม ดังนั้น ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม จนถึง 30 ตุลาคม มีโอกาสเสนอและพิจารณาร่างได้ในชั้นรับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา พร้อมย้ำว่าดูจากกรอบเวลาแล้วจะเสร็จทันแน่นอน ซึ่งช้าสุดจะพิจารณาในวาระที่ 3 ต้องไม่เกินวันที่ 15 มกราคม 2569 เพราะหากคำนวณจากวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 29-30 กันยายน นี้ และนับคำนวณเวลายุบสภาเว้นไว้ 15 วัน เพื่อส่งให้ทำประชามติ
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
