24 ก.ย.68-สภาฯ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหารฯ ไว้พิจารณา จ่อโอนคดีทุจริต-คดีอาญาทหารทำผิดกับพลเรือน ให้ขึ้นศาลยุติธรรม รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างและอำนาจตุลาการทหารให้มีความเป็นอิสระมากขึ้น หวังเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปกองทัพ และสร้างความเสมอภาคให้กับประชาชนทุกคน

image

        ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายฉลาด  ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เสนอโดยนายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กับคณะ เป็นผู้เสนอ โดยพิจารณาพร้อมกับร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาทำนองเดียวกับอีก 1 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เสนอโดยนายเอกราช  อุดมอำนวย สส.แบบบัญชีรายชื่อ กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน กับคณะ เป็นผู้เสนอ และพิจารณาร่วมกับร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เสนอโดยนายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร กับคณะ เป็นผู้เสนอ โดยเป็นการแยกลงมติในวาระรับหลักการ

        นายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้เสนอร่างกฎหมาย กล่าวชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ. ธรรมนูญศาลทหารฯ ว่า ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมที่เทียบเท่าและเท่าเทียมกัน เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีความเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และได้ผลลัพธ์จากกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ลักลั่น ตลอดจนให้การพิจารณาคดีในศาลทหารมีมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมที่เทียบเท่ากับศาลยุติธรรม โดยร่างกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498 ซึ่งไม่สอดคล้องกับบริบทของปัจจุบัน และเพื่อแก้ไขข้อกังขาของสังคมต่อมาตรฐานศาลทหารในหลายคดีที่ผ่านมา เช่น คดี GT200, การทุจริตในกองทัพ หรือการอุ้มหายซ้อมทรมาน สำหรับหลักการสำคัญในการแก้ไขปรับปรุงประกอบด้วย 7 ข้อสำคัญ ได้แก่ 1. การยกเลิกศาลจังหวัดทหารและให้นำคดีไปพิจารณาที่ศาลมณฑลทหารบกแทน ซึ่งจะเป็นการบริหารงบประมาณและทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจำนวนคดีลดลง 2. แก้ไขให้ผู้เสียหายสามารถเป็นโจทก์ฟ้องเองได้ โดยไม่จำกัดว่าจะต้องผ่านอัยการทหารเท่านั้นแบบเดิม 3. แก้ไขให้ไม่สามารถสืบพยานลับหลังจำเลยได้อีกต่อไป โดยเฉพาะการสืบพยานโจทก์ลับหลังจำเลย ซึ่งไม่แตกต่างจากการกล่าวหาฝ่ายเดียว ที่ทนายจำเลยไม่สามารถท้วงติงซักค้านได้ 4. สามารถอุทธรณ์และฎีกาได้ทั้งในเวลาปกติ และสถานการณ์ที่มีการประกาศกฎอัยการศึก 5. ปรับปรุงให้ตุลาการพระธรรมนูญขึ้นตรงต่อคณะกรรมการตุลาการทหาร ที่มีผู้แทนจากศาลยุติธรรมและศาลปกครองเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย แทนที่จะอยู่ในสังกัดสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมภายใต้ระบบการบังคับบัญชาแบบเดิม เพื่อให้การพิจารณาคดีของศาลทหารจากนี้ไปมีอิสระจากอำนาจการบังคับบัญชา และมีมาตรฐานเดียวกันกับศาลยุติธรรม 6. โอนคดีที่มีลักษณะเฉพาะไปยังศาลชำนัญพิเศษ โดยเฉพาะ “คดีทุจริตและประพฤติมิชอบ” ในกองทัพ ต้องถูกส่งไปพิจารณาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนและนักการเมือง เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน และ 7. ปรับสัดส่วนองค์คณะตุลาการ ในคดีร้ายแรง ให้มีตุลาการพระธรรมนูญ (ผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย) 2 นาย และตุลาการร่วม (นายทหารชั้นนายพล) เพียง 1 นาย เพื่อลดการกดดันจากระบบรุ่นพี่รุ่นน้องในกองทัพ

        ด้านนายเอกราช  อุดมอำนวย สส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ในฐานะผู้เสนอร่างกฎหมาย กล่าวชี้แจงว่า โครงสร้างปัจจุบันของศาลทหารมีปัญหาอำนาจรวมศูนย์อยู่ภายใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำให้ขาดหลักประกันความเป็นอิสระ และเกิดความคลุมเครือในเขตอำนาจศาล ดังเช่นคดีซ้อมพลทหารเสียชีวิต ที่มีความพยายามตีความให้คดีกลับไปอยู่ในอำนาจศาลทหาร ทั้งที่ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 กำหนดให้ขึ้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

        ขณะที่ นายธีระชัย แสนแก้ว สส. จังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายสนับสนุนร่างกฎหมายธรรมนูญศาลทหารฯ ว่า ความแตกต่างของคุณสมบัติองค์คณะตุลาการทหาร ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้จบการศึกษาด้านกฎหมาย แตกต่างจากผู้พิพากษาศาลยุติธรรมที่ต้องผ่านการสอบแข่งขันที่เข้มข้นอย่างมาก ทั้งที่ ทหารก็รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องกลัวการตรวจสอบจากศาลอาญาคดีทุจริตฯ เช่นเดียวกับข้าราชการอื่น ๆ

      นางสาวธิษะณา  ชุณหะวัณ สส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน อภิปรายย้ำถึงผลกระทบของศาลธรรมนูญทหารต่อพลเรือน ว่า การให้พลเรือนที่ถูกทหารกระทำผิดต้องไปขึ้นศาลทหารนั้นไม่เป็นธรรม พร้อมยกตัวอย่างคดีที่เกิดความล่าช้าหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่น คดีพยายามสังหารอดีต สว. ที่เวลาผ่านไป 15 ปี แต่คดีในศาลทหารไม่มีความคืบหน้า หรือคดีที่ทหารทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต แต่ศาลทหารตัดสินให้รอลงอาญา ตนจึงสนับสนุนการแก้ไขให้คดีที่ทหารกระทำผิดอาญาต่อพลเรือนต้องไม่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร เพื่อให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ เพื่อสร้างระบบยุติธรรมที่มีมาตรฐานเดียว โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน ได้รับความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน

        ภายหลังจาก สส. ได้อภิปรายอย่างกว้างขวางแล้ว ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติรับหลักการแห่ง ร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ทั้ง 2 ฉบับด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 315 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ จำนวน 31 คน กำหนดระยะเวลาแปรญัตติ 15 วัน โดยให้ถือเอาร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหารฯ ฉบับที่เสนอโดยนายเอกราช  อุดมอำนวย กับคณะ เป็นผู้เสนอ เป็นหลักในการพิจารณาในวาระที่สอง

        จากนั้นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติรับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 290 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง ไม่มี โดยที่ประชุมสภาฯ มีมติให้ใช้ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหารฯ เป็นผู้พิจารณา และกำหนดระยะเวลาแปรญัตติ 15 วัน

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์   ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ