24 ก.ย.68 - รองประธาน กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค สผ.เสนอโมเดล BEST ปรับปรุงตั๋วร่วม BTS–BEM ลดค่าเดินทาง เพิ่มความสะดวกให้ประชาชน

image

                 นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการพิจารณาแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคจากการใช้บริการบัตรโดยสารรถไฟฟ้ารายเดือน โดยมีผู้แทนจากบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ร่วมให้ข้อมูล

                โดย นายกันต์พงษ์ กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลใหม่ประกาศเลื่อนโครงการค่าโดยสาร 20 บาท เนื่องจากอาจผิดวินัยการเงินและการคลัง BTS จึงได้เสนอทางเลือกใหม่ด้วยการเปิดตัวตั๋วเดือนเป็นครั้งแรก โดยตั๋วเดือนของ BTS มีราคา 27 บาท สำหรับนิสิตและนักศึกษา และ 32 บาท สำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือตั๋วเดือนนี้ยังคงเป็นค่าโดยสารต่อเที่ยว ไม่ใช่ค่าโดยสารเหมาจ่าย ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อผู้โดยสารต้องเปลี่ยนสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางจาก BTS ไป BEM หรือจากสายสีเขียวไปสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ผู้โดยสารยังคงต้องเสียค่าแรกเข้าซ้ำ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายรวมสำหรับการเดินทางข้ามสายสูงถึง 50 - 60 บาทต่อเที่ยว และเมื่อคิดการเดินทางไป - กลับจะเป็น 100 บาท ซึ่งไม่ต่างจากเดิมแต่อย่างใด ในขณะที่ BEM มีเพียงนโยบายการลดค่าโดยสาร 50% สำหรับผู้สูงอายุเกิน 60 ปี และลดเพียง 10% สำหรับเด็กและนักศึกษา และจะพิจารณาจำหน่ายบัตรโดยสารรายเดือนในอนาคต ส่วนตั๋วเดือนยังไม่มี อย่างไรก็ตาม สภาฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนผู้ใช้บริการมีต้นทุนในการเดินทางที่ลดลง และยังเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ด้วยการใช้บัตรโดยสารใบเดียว สามารถเดินทางได้ทุกระบบของการบริการขนส่งสาธารณะ แต่ในปัจจุบันระบบตั๋วโดยสารยังไม่สามารถใช้ร่วมกันได้จริง สาเหตุหลักมาจากความแตกต่างของระบบเทคโนโลยี โดน BTS ยังคงใช้ระบบ Rabbit Card ที่เป็นระบบเดิม ขณะที่ BEM ใช้ระบบ EMV ที่สามารถรองรับบัตรเครดิตและเดบิตการ์ด และวีซ่าจากธนาคารต่างๆ ได้ เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งในที่สุดแล้วปัญหาจะส่งผ่านไปยังประชาชน

              ดังนั้น ตนจึงขอเสนอโมเดล BEST เป็นแนวทางการปรับปรุงระบบรถไฟฟ้าแบบบูรณาการระหว่าง BTS และ BEM โดย B - Better Service บริการที่ดีกว่า ครอบคลุมการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอย่างห้องน้ำ การลดเวลารอรถ และการปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างสถานี E - Efficiency ในเรื่องของราคาที่ต้องมีประสิทธิภาพและถูกลงกว่าปัจจุบัน โดยเสนอให้นำโมเดลจากต่างประเทศมาปรับใช้ อาทิตั๋วรายวัน ตั๋วรายเดือน และตั๋วรายปี ตามแบบที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ได้ทำมาแล้วอย่างสำเร็จ S -Safety ความปลอดภัยที่ต้องได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น รวมถึงการติดตั้งระบบประตูกั้นอัตโนมัติ และ T -Ticket ตั๋วร่วมที่ใช้ได้จริง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในขณะนี้ แม้จะมีการประกาศเรื่องตั๋วร่วมแล้ว แต่ในทางปฏิบัติผู้โดยสารยังคงต้องแยกใช้ตั๋วกัน ซึ่งในเรื่องของระบบตั๋วมีข้อเสนอให้เลือกใช้ระบบเดียว ไม่ว่าจะเป็นบัตร EMV หรือ Rabbit Card แต่จากมุมมองของผู้ใช้บริการ การใช้บัตรที่ออกจากธนาคารบัตรเครดิตหรือเดบิต จะสะดวกกว่า เพราะประชาชนส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปซื้อบัตรเพิ่มเติม แม้จะมีร่างกฎหมายเกี่ยวกับตั๋วร่วม แต่การนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมยังต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งสองบริษัท โดยเฉพาะการตัดสินใจเลือกใช้ระบบเทคโนโลยีเดียวกัน และการยอมเสียสละผลประโยชน์ระยะสั้นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในระยะยาว

 

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ