นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) มีมติให้ กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา ศึกษาประเด็นปัญหาในรัฐธรรมฉบับปี 60 และการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ซึ่งพรรคการเมืองต่าง ๆ ยื่นเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมนำไปสู่การมี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งมีที่มาแตกต่างกันตามแต่ที่แต่ละพรรคการเมืองเสนอ ซึ่ง กมธ. มีความตั้งใจที่จะศึกษาร่างฯ ของทุกพรรคการเมือง และอยู่ระหว่างรอคำวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำมาใช้พิจารณาศึกษา โดยเฉพาะประเด็นที่ประชาชนไม่สามารถเลือก ส.ส.ร. ได้โดยตรง แม้ กมธ. จะเคารพในคำวินิจฉัยและความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังยืนยันในหลักการว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 บัญญัติให้ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจอธิปไตยในการสถาปนารัฐธรรมนูญ ประชาชนควรจะมีสิทธิในการเลือก ส.ส.ร. ได้โดยตรง ซึ่งตนเห็นว่าสมาชิกรัฐสภาควรจะยืนยันสิทธินี้แทนประชาชนด้วย
นายนรเศรษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทาง กมธ. จัดทำร่างโมเดล ส.ส.ร. แบบก้าว 2 ขา บันได 2 ขั้นไว้ คือ ให้มี ส.ส.ร. ที่เป็นตัวแทนจากในเชิงพื้นที่ เลือกโดยประชาชน จำนวน 200 คน เลือกโดยสมาชิกรัฐสภา เป็นโควต้าตามสัดส่วนประชากรของจังหวัด โดยจังหวัดขนาดใหญ่ที่สุดจะมี ส.ส.ร. ได้ไม่เกิน 5 คน เพื่อให้มีสัดส่วนที่ไม่ต่างจาก ส.ส.ร. ของจังหวัดขนาดเล็กมาก และอีกส่วนเป็นแบบบัญชีรายชื่อที่เป็นตัวแทนของผู้เชี่ยวชาญสมัครเข้ามาให้สมาชิกรัฐสภาคัดเลือกเหลือ 200 คน พร้อมกำหนดเงื่อนไขการเลือกของสมาชิกรัฐสภาให้เกิดความกระจายคะแนนและเกิดหลากหลายใน ส.ส.ร. มากที่สุด พร้อมเสนอให้ ส.ส.ร. จำนวน 200 ที่ถูกเลือกได้ทำหน้าที่ ส่วนอีก 200 คนที่ไม่ถูกเลือก ให้เป็นกรรมการรับฟังความเห็น และกรรมการประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ผู้แทนประชาชนทั้ง 400 คนที่ประชาชนเลือกมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งหลังจากนี้ กมธ. จะนำโมเดลนี้ไปหารือร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จากแต่ละพรรคการเมืองต่อไป
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง
