นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า พร้อมด้วย รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และคณะ เข้าศึกษาดูงาน ณ สถาบันการศึกษาและศูนย์วิจัยเอกชนในฮังการี (Mathias Corvinus Collegium: MCC) ณ กรุงบูดาเปสต์ ซึ่งสถาบันแห่งนี้มีนักเรียนและนักศึกษาทุกระดับมากถึง 8,200 คน มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาที่ยั่งยืน และการศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) มีหน่วยงานวิจัยภายใต้สังกัดคือ สถาบันนโยบายสภาพภูมิอากาศ (Climate Policy Institute)
โอกาสนี้ นาย Zoltan Szalai ได้กล่าวถึงจุดเด่นของ MCC คือการจัดหลักสูตรการศึกษาให้กับเยาวชน ตั้งแต่ชั้นประถม หรือ primary school จนถึงระดับอุดมศึกษา มีการให้ทุนการศึกษาเพื่อคัดเลือกเยาวชนที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมเข้ามาศึกษาต่อที่ MCC ซึ่งมีศูนย์การศึกษาและวิทยาเขตกระจายอยู่ทั่วฮังการี และในภูมิภาคยุโรป ขณะเดียวกันยังมีการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับชุมชน และมีสถาบันสร้างผู้นำ (Leadership Acadamy) เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อมในอนาคตด้วย นอกจากนี้ MCC มีการประสานความร่วมมือกับทั่วโลก ทั้งระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เช่น สหรัฐอเมริกา รวมถึงหลายประเทศในเอเชีย อาทิ จีนและสิงคโปร์ โดยรูปแบบความร่วมมือมีทั้งการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ จัดทำหลักสูตรนานาชาติ แลกเปลี่ยนผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง จัดเวทีสัมนาระดับชาติ และระดับนานาชาติ ตลอดจนเผยแพร่งานวิจัยผ่านการตีพิมพ์ทั้งในสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นสื่อกระแสหลักและมีประวัติศาสตร์ยาวนานของฮังการี และการจัดพิมพ์เอกสาร หนังสือ ตำราของ MCC เอง บทบาทของ MCC จึงไม่เพียงแค่ทำวิจัย แต่ยังเน้นการเรียนการสอน การสร้างคนให้มีความตระหนักรู้ และมีองค์ความรู้ตั้งแต่เยาวชน และแปรงานศึกษาวิจัยสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ด้วยการทดลองปฏิบัติจริงร่วมกับชุมชน และยังร่วมงานพร้อมให้ข้อเสนอแนะกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงให้คำปรึกษากับรัฐบาลและรัฐสภาฮังการี
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รัฐสภาไทยให้ความสนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมาก และมองว่าการพัฒนาต่าง ๆ ต้องมีความสมดุลทั้งในแง่ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ส่วนตัวรู้สึกประทับใจที่ MCC มีพันธกิจทั้งทางด้านทฤษฎี ด้านการปฏิบัติ และการศึกษา โดยเฉพาะการให้ความรู้และการศึกษากับเยาวชนตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก เพื่อปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องและประเทศไทยลืมขบคิดในประเด็นดังกล่าวไป โดยไทยมุ่งเน้นแต่ระดับชั้นอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัยเท่านั้น อย่างไรก็ตามประธานรัฐสภา ในนามประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ตนจะให้สถาบันพระปกเกล้าไปจัดทำหลักสูตรในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน เพิ่มเติมจากเดิมที่เน้นหลักสูตรด้านการเมือง สังคม และประชาธิปไตย และหลังจากนี้หวังว่าจะมีการลงนามร่วมกันระหว่าง 2 สถาบัน
ด้าน รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิกาาสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้าสนใจงานของสถาบัน MCC หลายเรื่อง และมองว่า ทั้งสถาบันพระปกเกล้า และสถาบัน MCC มีเป้าหมายเดียวกันในเรื่องการศึกษาและสร้างผู้นำรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ การศึกษาตลอดชีวิตที่ไม่จำกัดช่วงเวลาและช่วงวัย สอดคล้องกับสภาพสังคมและสถานการณ์โลกในปัจจุบัน คาดว่าสถาบันพระปกเกล้า และ MCC จะเป็นพันธมิตรที่ดีร่วมกันได้ ทั้งในเรื่องการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ งานวิจัย และการจัดหลักสูตรสร้างผู้นำ และหวังว่าสถาบันพระปกเกล้าจะมีโอกาสต้อนรับคณะของ MCC ที่ไปเยือนประเทศไทย และร่วมงานกันเพื่อสร้างหลักสูตรผู้นำรุ่นใหม่เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาที่ยั่งยืน
สำนักประชาสัมพันธ์ สนง.สผ. ข้อมูล/ภาพ
