นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ในงาน The Standard Economic Forum 2025 วันนี้ ซึ่งไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่ารัฐบาลมีแผนใดที่เป็นรูปธรรมในการปราบสแกมเมอร์ แต่ใช้วิธีเซ็นเช็คเปล่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้อำนาจปราบปรามอย่างเต็มที่ ว่าการที่นายกรัฐมนตรีกล่าวในลักษณะนี้ ถือว่าบกพร่องต่อการทำหน้าที่ผู้นำประเทศอย่างมาก เพราะเป็นการปัดความรับผิดชอบ โยนเผือกร้อนให้ข้าราชการ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงการปราบปรามสแกมเมอร์ที่จะไม่คืบหน้าอย่างแน่นอน
นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ขณะนี้ประชาชนทั้งประเทศมองว่าปัญหาทุนเทาเข้ายึดครองประเทศ และครอบงำเศรษฐกิจไทย หลอกลวงสร้างความเสียหายนับแสนล้านบาทต่อคนไทย เป็นปัญหาสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีไม่เคยมีท่าทีที่แสดงให้เห็นว่าจริงจังในการปราบปราม นอกจากตั้งอนุกรรมการ ขณะที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ยังมีรัฐมนตรีถึง 2 คน ที่ถูกเชื่อมโยงว่าอาจมีสายสัมพันธ์กับเครือข่ายสแกมเมอร์ ส่วนตนในฐานะฝ่ายค้าน พยายามใช้ช่องทางกรรมาธิการ ติดตามตรวจสอบตลอด 1 เดือน แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากบุคคลในรัฐบาล ไม่มีผู้เข้าให้ข้อมูลแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็น ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์, หรือ นายวรภัค ธันยาวงษ์ ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตำรวจไซเบอร์ ให้ความร่วมมืออย่างจำกัด ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวเสนอแนวทางติดตามสอบสวนเพื่อแก้ปัญหาสแกมเมอร์ที่สามารถทำได้ทันที คือ รัฐบาลจะจ้องตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ รวมปฏิบัติการให้มีวอร์รูมแห่งเดียว นายกฯ สั่งการโดยตรง ติดตามอายัดทรัพย์บุคคลที่ปรากฏชื่อในร่างกฎหมาย HR 5490 ว่าด้วยการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติสแกมเมอร์ ของสหรัฐฯ เช่น นายเบน สมิธ นายยิม เลียก และ นายเฉิง จื้อ สอบเส้นเงินเพื่อขยายผลถึงผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน พร้อมกับจัดประชุม round-table แลกเปลี่ยนข้อมูลกับคณะทูตนานาชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร สิงคโปร์และเกาหลีใต้ เพื่อวางมาตรการปราบสแกมเมอร์ร่วมกัน รวมถึงประสานกับองค์การตำรวจสากล (Interpol) ซึ่งมีหน่วยงานเฉพาะที่ปฏิบัติการปราบปรามสแกมเมอร์ รวมถึงการปรับรัฐมนตรีที่ถูกเชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์ออกจากคณะรัฐมนตรีชั่วคราว หรืออย่างน้อยที่สุด ให้รัฐมนตรีเหล่านี้แถลงชี้แจงต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ และไปให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการฯ ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประโยชน์ในการติดตามตรวจสอบอาชญากรรมฟอกเงินและสแกมเมอร์ และเพื่อให้ประขาชนทั่วประเทศคลายความสงสัยว่ารัฐบาลอาจกำลังปกปิดข้อเท็จจริงหรือเตะถ่วงการสอบสวนเครือข่ายสแกมเมอร์ เนื่องจากต้องการปกป้องคนในรัฐบาลหรือไม่ด้วย
อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย ข่าว/เรียบเรียง
