นายคริษฐ์ ปานเนียม สส.จังหวัดตาก พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊ก Karit Yeaw Pannaim ระบุว่า ปีนี้เป็นอีกปีที่ประเทศไทยต้องเผชิญปัญหาการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนใหญ่ ซึ่งแม้ว่าจะทราบปัญหามานาน แต่ปัญหานี้กลับไม่สามารถแก้ไขได้อย่างยั่งยืน ซึ่งทุกปีมักมีข้อกังวลว่าจะขาดน้ำในหน้าแล้ง จนไม่กล้าพร่องน้ำจากเขื่อน แม้จะมีสัญญาณพายุใหม่กำลังเข้ามา ทั้งที่ปัจจุบันมีข้อมูลและเทคโนโลยีมากมายที่สามารถคำนวณทิศทางพายุและปริมาณน้ำฝนได้อย่างแม่นยำ
นายคริษฐ์ระบุว่า ปีนี้แม้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบเพียงหางของพายุ แต่กลับสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับชุมชนหลายพื้นที่ และเมื่อพายุลูกใหม่กำลังพัฒนาเป็นพายุดีเปรสชันพัดเข้าสู่ประเทศไทยเต็มตัว ขณะที่พื้นดินอิ่มน้ำจนไม่สามารถรับน้ำได้อีกต่อไปแล้ว ย่อมเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่า ดินถล่ม และภัยพิบัติซ้ำซ้อน ทั้งนี้ตนขอตั้งคำถามว่า ถึงเวลาหรือไม่ที่ประเทศไทยต้องยอมรับความจริง และทบทวนระบบการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนใหญ่ ด้วยการใช้ข้อมูลและวิทยาศาสตร์แทนความกลัว พร่องน้ำอย่างมีแผนเพื่อรองรับน้ำใหม่ แทนการรอให้เขื่อนเต็มแล้วค่อยปล่อยน้ำฉับพลันซึ่งแนวทางนี้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนใต้เขื่อน อย่างไรก็ตามย้ำว่าน้ำคือชีวิต แต่ชีวิตของคนใต้เขื่อนย่อมมีคุณค่าไม่แพ้กัน ดังนั้นขอเรียกร้องให้ภาครัฐพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำที่ทันสมัย โปร่งใส และกล้าตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล เพื่อให้ทุกหยดน้ำที่กักเก็บไว้ไม่กลายเป็นภัยทำลายชีวิตของประชาชนเสียเอง
ณัฐเดช เอียดปุ่ม ข่าว/เรียบเรียง
เพจเฟซบุ๊ก Karit Yeaw Pannaim ข้อมูล/ภาพ (แฟ้มภาพ)