13 พ.ย. 68 - สส.เซีย พรรคประชาชน แถลงข่าวตอบโต้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ย้ำ 3 ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่เสนอโดย สส.พรรคประชาชน คือรากฐานสู่ระบบแรงงานที่เป็นธรรม ยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

 

image

            นายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน หนึ่งในผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แถลงข่าวตอบโต้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ออกมาคัดค้านร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 3 ฉบับของพรรค โดยยืนยันว่ากฎหมายเหล่านี้คือรากฐานของการสร้างระบบนิเวศแรงงานที่เป็นธรรม และจะส่งผลดีต่อศักยภาพการแข่งขันของประเทศในอนาคต จึงต้องการให้ กกร. เปลี่ยนกระบวนทัศน์ การแข่งขัน และมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจสมัยใหม่ ที่ไม่สามารถแข่งขันในตลาดที่มีมูลค่าต่ำได้อีกต่อไป การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรม

            นายเซีย กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกังวลของ กกร. ต่อร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ ฉบับมีเวลาพักผ่อน ที่เสนอโดย นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี ได้กำหนดเวลาทำงานเหลือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่ง กกร. ให้ความเห็นว่าการลดเวลาทำงานเหลือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์จะกระทบต่อความยืดหยุ่นทางการเงินและกำลังการผลิตของประเทศ ตนขอชี้แจงว่าการลดชั่วโมงทำงานนั้นเหมาะสมและเป็นการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ข้ออ้างที่ว่ากำลังการผลิตจะลดลงเป็นแนวคิดระยะสั้น เพราะการมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นจะช่วยให้แรงงานมีโอกาสฝึกทักษะ (Training) พัฒนาตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่ผลผลิตที่ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว ส่วนความเห็นของ กกร.ต่อร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ ฉบับมีสิทธิลา ที่เสนอโดย นางสาววรรณวิภา ไม้สน สส.แบบบัญชีรายชื่อ กำหนดให้ห้ามเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน การมีมุมปั๊มนมสำหรับหญิงคลอดบุตรและสิทธิลาปวดท้องประจำเดือน โดย กกร.ให้ความเห็นว่า การออกกฎหมายฉบับนี้เป็นการออกกฎหมายที่เกินความจำเป็นเนื่องจากกฎหมายคุ้มครองแรงงานในปัจจุบันเป็นกฎหมายที่ครอบคลุมและดูแลลูกจ้างดีอยู่แล้วนั้น ตนขอชี้แจงว่าข้อเสนอเหล่านี้เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่นานาอารยประเทศยอมรับ การยืนยันสิทธิดังกล่าวจะช่วยสร้างบรรทัดฐานที่เป็นธรรมในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ขณะที่ความเห็นของ กกร.ต่อร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯ ฉบับมีความมั่นคงในการทำงาน ที่ตนเสนอ เป็นการกำหนดให้เพิ่มบทนิยาม การจ้างงานแบบรายเดือน เป็นการจ้างงานประจำและเต็มเวลา โดย กกร. ให้ความเห็นว่า เป็นการกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลในการทำสัญญาเกินความจำเป็นและขัดต่อหลักสิทธิ เสรีภาพ ในการทำสัญญา ตนขอชี้แจงว่า การเพิ่มบทนิยามนี้เพื่อป้องกันการเลี่ยงการให้สวัสดิการของนายจ้าง และเป็นการเพิ่มความมั่นคงให้แก่แรงงาน เมื่อแรงงานมีรายได้ที่มั่นคง เงินเหล่านั้นจะหมุนเวียนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการจับจ่ายใช้สอย ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตและยกระดับคุณภาพชีวิตคนทำงาน

            นายเซีย กล่าวทิ้งท้ายว่า เนื้อหาของกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ล้วนเป็นข้อเรียกร้องที่แรงงานเสนอผ่านรัฐบาลมาแล้วหลายชุด การที่ สส. ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติเสนอร่างกฎหมายเข้ามา ถือเป็นฉันทามติของประชาชน และกฎหมายทุกฉบับได้ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็น รวมถึงการพิจารณาวาระที่ 1 ของสภาผู้แทนราษฎรด้วยเสียงส่วนใหญ่แล้ว พร้อมย้ำว่ากฎหมายทุกฉบับออกแบบมาเพื่อยืนยันบนหลักการของสิทธิขั้นพื้นฐานและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สอดคล้องกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ทั้งด้านชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสม สิทธิ์การลา การคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งจะเป็นรากฐานในการสร้างระบบนิเวศของเศรษฐกิจไทยที่นายจ้างและลูกจ้างพึ่งพาอาศัยกันเพื่อสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนต่อไป

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ