13 พ.ย.68- สส.พนิดา พรรคประชาชน เผยมติ กมธ.แก้ รธน. เคาะใช้ “กมธ.ร่าง รธน.” 35 คน มาจากการคัดเลือกของรัฐสภา กังวลมติโหวตคว่ำ “สภาที่ปรึกษา” มาจากการเลือกตั้งโดยตรง หวั่นขัดคำวินิฉัยศาล รธน.

image

        นางสาวพนิดา  มงคลสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสมุทรปราการ พรรคประชาชน ในฐานะ กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุม กมธ. ว่า กมธ.ชุดนี้ใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของพรรคประชาชนเป็นร่างหลักในการพิจารณา ซึ่งประกอบด้วย 2 กลไกหลักทำงานคู่ขนานกัน คือ 1. กมธ.ร่างที่มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนขั้นต้น 70 คนแล้วส่งชื่อให้รัฐสภาเลือก 35 คน และ 2. สภาที่ปรึกษา ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน 100 คน ทำหน้าที่รับฟังความเห็นประชาชน รณรงค์สร้างการมีส่วนร่วม แต่ไม่มีสิทธิ์ในการโหวตใน กมธ. ร่างรัฐธรรมนูญ

        นางสาวพนิดา กล่าวถึงผลโหวตในมาตรา 256/1 เกี่ยวกับกลไกผู้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า กมธ. สัดส่วนพรรคประชาชนโหวตยืนยันให้คงไว้ตามร่างหลัก โดยที่ประชุมมีมติเสียงส่วนใหญ่ 21 ต่อ 9 งดออกเสียง 2 เสียง  เห็นชอบตามร่างหลักของพรรคประชาชนว่าให้ใช้กลไก กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน โดยรัฐสภาคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ พรรคประชาชนยืนยันว่า เมื่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ประชาชนเลือกผู้ร่างโดยตรง พรรคจึงเสนอให้ใช้กลไกรัฐสภาเป็นผู้คัดเลือก กมธ.ร่าง และไม่เห็นด้วยกับกลไกที่ให้รัฐสภาคัดเลือก สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แล้วค่อยให้ สสร. ไปเลือกผู้ยกร่างอีกที ซึ่งทำให้ผู้ร่างห่างจากอำนาจประชาชนถึง 2 ระดับ และพรรคเห็นว่ากลไกที่ให้รัฐสภาเป็นผู้เลือก กมธ.ร่างโดยตรง  จะมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่า ห่างจากอำนาจประชาชนเพียง 1 ระดับ เท่านั้น

        นางสาวพนิดา กล่าวด้วยว่า กมธ.สัดส่วนพรรคประชาชน 8 เสียง ที่ยืนยันให้สภาที่ปรึกษา 100 คนที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ซึ่งเป็นการคงไว้ตามร่างเดิมของพรรคประชาชน แต่เสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุม มีมติไม่เห็นชอบกับร่างหลักของพรรคประชาชน 23 ต่อ 8 งดออกเสียง 3 เสียง เนื่องจากมีข้อกังวลว่าหากสภาที่ปรึกษามีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง แม้ไม่ได้ทำหน้าที่ยกร่าง ก็อาจขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเห็นว่าเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะกลไกสภาที่ปรึกษานั้นจะสร้างความยึดโยงกับพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมาจากการเลือกตั้งโดยตรง การที่ประชาชนได้เลือกผู้ทำหน้าที่ไปรับฟังความเห็น รณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ และนำข้อเสนอที่ได้รับมาจากประชาชน ไปสะท้อนต่อ กมธ.ร่าง ได้อย่างตรงไปตรงมานั้น จะช่วยสร้างความชอบธรรมทางประชาธิปไตยให้กับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายใต้ข้อจำกัดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่เมื่อพรรคประชาชนแพ้โหวตในการให้คงไว้ซึ่งสภาที่ปรึกษา ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงตามร่างหลักแล้ว ที่ประชุม กมธ.จึงต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม โดยเสียงส่วนใหญ่ โหวตเห็นชอบด้วยมติ 22 ต่อ 1 และงดออกเสียง 9 เสียง ให้ใช้เป็นกลไก กมธ.รับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 35 คน โดยรัฐสภาคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อ สุดท้ายหัวใจสำคัญของมาตรานี้ คือการออกแบบกลไกผู้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด สร้างการมีส่วนร่วมสูงสุดของประชาชน บนข้อจำกัดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ