3 ธ.ค.68 - กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค สผ. ผลักดันมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เรียกร้อง คปภ.–สถาบันการเงิน - หน่วยงานรัฐ ดำเนินการอัตโนมัติ เน้นเคลมง่าย ยกเว้นค่าสาธารณูปโภค ไม่บันทึกเครดิตเสีย  

image

         นายภัณฑิล น่วมเจิม โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเกี่ยวกับสิทธิและมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในประเด็นประกันภัย หนี้สิน และบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน โดยระบุว่า ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยไม่ได้เผชิญแค่น้ำท่วมเพียงอย่างเดียว แต่ยังถูกซ้ำเติมด้วยภาระสัญญาประกันภัยที่ไม่แน่ใจว่าจะได้รับเงินเคลม หรือไม่ ขณะที่หนี้สินที่ยังคงเดินหน้า และค่าสาธารณูปโภคที่ยังค้างอยู่ทั้งที่ไม่ได้ใช้บริการ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า คนไทยกว่า 2 ล้านคนใน 8 จังหวัด รวมถึงจังหวัดสงขลา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 145 ราย ซึ่งถือเป็นวิกฤติระดับชาติที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะมาตรการประกันภัย ตนจึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และบริษัทประกันภัยทุกแห่งร่วมกันกำหนดมาตรฐานการจ่ายเงินเคลม โดยกำหนดวงเงินขั้นต่ำที่ต้องจ่ายเมื่อเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ กำหนดกรอบเวลาชดเชยให้ชัดเจน และจัดตั้งศูนย์เคลมประกันกลางในพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ประชาชนสามารถยื่นเรื่องและติดตามผลได้ในที่เดียว โดยไม่ต้องไปติดต่อที่สาขาอีก รวมทั้งขอให้ กมธ.การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เปิดวาระเร่งด่วนพิจารณาความชอบธรรมของเงื่อนไขการยกเว้นความคุ้มครองกรณีภัยพิบัติที่มักถูกระบุไว้ในหมายเหตุของกรมธรรม์
         สำหรับมาตรการทางการเงินและหนี้สิน นายภัณฑิล กล่าวว่า มาตรการทางการเงินของรัฐบาลที่ประกาศออกมาถือเป็นการนำร่องที่ดี แต่ต้องมีการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินเอกชนเพิ่มเติม โดยมาตรการของรัฐบาลครอบคลุมการพักชำระหนี้และดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 เดือนสำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ยกเว้นการคิดดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้ โดยให้ความช่วยเหลือรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการสินเชื่อเยียวยาผู้ประสบภัยอุทกภัยภาคใต้วงเงินไม่เกินรายละ 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0% ปีแรก และสินเชื่อฟื้นฟูอาชีพอีก 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% เพื่อนำไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและฟื้นฟูการประกอบอาชีพ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ในระหว่างช่วงนี้ไม่ควรถูกทำให้เป็นหนี้เสีย (NPL) เพราะเป็นเหตุสุดวิสัย และขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินเอกชนให้ดำเนินมาตรการคล้ายคลึงกัน โดยไม่ให้มีบันทึกเสียในเครดิตบูโร เพราะไม่มีใครควรถูกปิดโอกาสเพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
           ส่วนมาตรการสาธารณูปโภคและการสื่อสาร ตนมีข้อเสนอให้ประกาศพื้นที่ประสบภัยรุนแรงให้ได้รับสิทธิ์ยกเว้นค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาอย่างน้อย 3 เดือน คิดเพียงครึ่งหนึ่งของราคาปกติในช่วงฟื้นฟู 1 ปีถัดไป โดยให้การไฟฟ้าและการประปาใช้ฐานข้อมูลมิเตอร์ลดให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องให้ประชาชนไปยื่นเรื่องขอด้วยตนเอง ส่วนด้านการสื่อสาร ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ใช้อำนาจสั่งการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตมอบแพ็กเกจฟรีในเขตภัยพิบัติตลอดช่วงวิกฤต ซึ่งจะเป็นโอกาสในการทำ CSR ที่ดีของบริษัทเอกชน
         ทั้งนี้ กมธ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาชี้แจง ได้แก่ คปภ. ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ในประเด็นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่อาจถูกโก่งราคา โดยย้ำว่าเวลานี้ควรเป็นเวลาที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนให้เร็วที่สุด พร้อมยืนยันว่า พร้อมทำงานร่วมกับทุกฝ่ายในสภา เพื่อผลักดันให้มาตรการเหล่านี้เกิดขึ้นจริง และขอให้รัฐบาลดำเนินการเป็นอัตโนมัติโดยไม่ให้ประชาชนต้องไปเรียกร้องเอง เพราะตอนนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากพอแล้ว

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ