พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. .... วุฒิสภา (ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม) กล่าวก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ว่า ในการพิจรณาร่างกฎหมายมีความคืบหน้าไปมาก โดยเชิญผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้เสียหายและผู้ที่อยู่ในการชุมนุมมา เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนที่สุด เพราะเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มีความจําเป็นและมีความสําคัญ เพราะเมื่อดูร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับอื่นแล้ว แต่ละฉบับก็เป็นแต่ละเหตุการณ์ และจบไปในครั้งเดียว แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงหลายเหตุการณ์ ดังนั้น ความยากของคณะกรรมาธิการฯ ที่พิจารณาก็ไม่อยากให้กลุ่มใดกลุ่มหนี่งเสียประโยชน์ จึงมองว่าหากร่างออกมาก็จะทําให้สังคมกลับมาสู่ความสันติสุขได้ และทำให้ความรู้สึกดีขึ้น แต่ต้องทําด้วยความรอบคอบ แต่จะไม่เป็นบรรทัดฐานว่าต่อไปหากกระทําผิดก็จะมีการนิรโทษกรรม สิ่งที่รัฐสูญเสียหรือประชาชนสูญเสีย ก็จะไม่ได้รับการดูแล ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงพยายามทําด้วยความรอบคอบและครอบคลุมทุกกลุ่ม
เมื่อถามว่าคาดว่าเนื้อหาจะเป็นไปตามที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณามาหรือไม่ หรือจะมีการปรับปรุงแก้ไข จึงต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมขึ้นมาพิจารณา พลเอก สวัสดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นการพิจารณารอบด้าน โดยการประชุมครั้งหน้าจะเชิญผู้แปรญัตติมาชี้แจงว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และเมื่อพิจารณาครบทุกด้านแล้ว ในการพิจารณาแต่ละมาตราคงใช้เวลาไม่นาน เพราะมีเพียง 13 มาตรา ซึ่งการพิจารณาก็จะเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็ว ส่วนจะต้องมีการแก้ไขหรือไม่ก็คงต้องพูดคุยกันในชั้นกรรมาธิการ
เมื่อถามว่ามีความเห็นต่อเนื้อหาที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอมา คือ ต้องการให้นิรโทษกรรมบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี พลเอก สวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความจําเป็น ซึ่งต้องพูดคุยกันในคณะกรรมาธิการฯ ว่าแทนที่จะมีการลงโทษ จะเป็นอย่างอื่น เช่น การอบรม เพราะยังเป็นเยาวชนกันอยู่ อาจจะทําไปด้วยความผิดพลาดพลั้งเผลอ ซึ่งเป็นเพียงแนวคิดก็ต้องมาคุยกันว่าในแต่ละเรื่องเป็นอย่างไร
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง