8 ธ.ค.68 - หัวหน้าพรรคประชาชน ติดตามสถานการณ์ปะทะชายแดนด้วยความห่วงใย เสนอรัฐบาลเปิดทั้งแนวรบทางทหาร ข่าวสาร และโลกล้อมกัมพูชาปราบสแกมเมอร์ ย้ำไทยกำลังเผชิญ Hybrid Warfare เตือนอย่าตกหลุมพรางสงครามข่าวสาร

image

        นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตนติดตามการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ด้วยความเป็นห่วงประชาชนและทหารแนวหน้าที่ประจำการอยู่ตลอดแนวชายแดน ซึ่งสถานการณ์เช้านี้ได้พัฒนากลายเป็นการปะทะทางทหารตลอดแนวพรมแดนด้านตะวันออก

          นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า การรบเพื่อปกป้องประชาชนและรับมือภัยคุกคามจากนอกประเทศ เป็นความชอบธรรมของไทยที่จะทำ แต่การรบเพียงอย่างเดียวจะยังไม่สามารถจบปัญหากัมพูชาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ และยังเสี่ยงที่ไทยจะตกหลุมพรางกัมพูชาในสงครามข่าวสาร ซึ่งไทยเผชิญ Hybrid Warfare การรบที่มีหลายแนว หลายรูปแบบ ไม่ใช่การปะทะด้วยอาวุธที่จะเอาชนะกันด้วยความเหนือกว่าทางกำลังและขีดความสามารถในการรบเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ซึ่งตนขอเสนอให้รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เปิด 3 แนวรบ ระดมทุกสรรพกำลังเพื่อจบเกมรัฐบาลกัมพูชา ประกอบด้วย 1.แนวรบทางทหาร ซึ่งรัฐบาลได้ประกาสสนับสนุนและกองทัพได้ดำเนินการอยู่แล้ว การรบอย่างเต็มกำลัง โดยมุ่งทำลายเป้าหมายทางทหารเพื่อขจัดขีดความสามารถในการรบของกัมพูชา 2.แนวรบข่าวสาร กระทรวงการต่างประเทศต้องเร่งชี้แจงว่าไทยมีความชอบธรรมในการปกป้องตนเองต่อประชาคมโลก และจำกัดขอบเขตโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารอย่างเคร่งครัด ต้องนำเกม อย่าตามเกมกัมพูชา เพื่อรับบทประเทศเล็กกว่าถูกประเทศใหญ่รังแก และ 3.แนวรบโลกล้อมกัมพูชาด้วยการปราบสแกมเมอร์ รัฐบาลต้องเดินหน้าสุดซอยในการขุดรากถอนโคนขบวนการสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นหัวใจของระบอบฮุน เซน อย่าทำแค่จัดประชุมเรื่องปราบสแกมเมอร์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ รัฐบาลต้องมีแผนการมากกว่านี้ กระทรวงการต่างประเทศต้องคิดว่าจะประสานความร่วมมือกับแต่ละประเทศอย่างไรในการจัดการสแกมเมอร์อย่างเด็ดขาด

         นายณัฐพงษ์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรีเรื่องการอายัดทรัพย์เครือข่ายขบวนการสแกมเมอร์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา มีรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงร่วมแถลง แต่กลับไม่มีตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นว่า กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ในแนวหน้าเรื่องการปราบสแกมเมอร์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะหัวใจสำคัญของการปราบสแกมเมอร์ คือ ต้องใช้โลกล้อมตระกูลฮุน นอกจากกระทรวงการต่างประเทศต้องเดินหน้าอย่างเต็มที่เรื่องใช้โลกล้อมระบอบฮุน เซน ปราบสแกมเมอร์ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก็ต้องเดินหน้าตรวจสอบเส้นเงิน อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ทั้งเครือข่ายขบวนการสแกมเมอร์ และขยายผลถึงคนไทยที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง อย่าตัดตอนแค่ที่ชาวต่างชาติ ต้องไม่สนใจว่าคนไทยที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร มีอิทธิพลทางการเมืองแค่ไหน 

         นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า การปะทะครั้งนี้คือ Endgame คือ โอกาสที่ไทยจะจบปัญหาความมั่นคงที่ชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยอย่างถาวร จัดการระบอบฮุน เซน ที่เป็นภัยคุกคามต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้ทหารไทยต้องสูญเสียชีวิตและอวัยวะมาหลายครั้ง รัฐบาลต้องอย่าให้ทหารรบอยู่แนวเดียว ทุกองคาพยพต้องระดมสรรพกำลังเพื่อจัดการกัมพูชาอย่างเป็นระบบ เพื่อความผาสุกของประชาชนและความมั่นคงของประเทศชาติ 

 

อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย ข่าว/เรียบเรียง

เฟซบุ๊ก ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ข้อมูล/ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ