15 ธ.ค. 68 - ประธานคณะกมธ.การศึกษาฯ วุฒิสภา ชี้ไทยต้องเร่งปฏิรูปการศึกษาและระบบวิจัย มุ่งพัฒนากำลังคนชั้นสูงเป็นหัวใจเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันประเทศ เสนอปรับบทบาทมหาวิทยาลัยจากผู้ถ่ายทอดความรู้ สู่การสร้างงานวิจัยใช้ได้จริง

image

         นายกมล รอดคล้าย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม วุฒิสภา กล่าวในรายการ ทันข่าววุฒิสภา ถึงความจำเป็นในการเร่งผลักดันยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของประเทศไทย โดยมองว่าหัวใจสำคัญคือการพัฒนากำลังคนชั้นสูง เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งหน่วยงานด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถือเป็นกลไกหลัก คณะกมธ. จึงได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อเสนอ ยุทธศาสตร์สำคัญ ที่มุ่งสร้างบุคลากรระดับชั้นนำของประเทศเป็นแนวทางการพัฒนาในระยะยาว
          นายกมล กล่าวถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบวิจัยไทยว่า มหาวิทยาลัยไม่ควรทำหน้าที่เพียงถ่ายทอดความรู้ แต่ต้องสร้างองค์ความรู้จากงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยจุดอ่อนของงานวิจัยไทยในปัจจุบันคือยังเป็นงานวิจัยพื้นฐาน ขาดการศึกษาเชิงลึก และไม่สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้ จึงเสนอให้งานวิจัยต้องมีเป้าหมายชัดเจน สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังติดปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล ซึ่งการยกระดับธรรมาภิบาลด้านการวิจัยต้องมีโครงสร้างที่เข้มแข็ง การระดมทุนที่เป็นระบบ และคณะกรรมการที่มีความสามารถ เพื่อผลักดันผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้จริง สำหรับเป้าหมายการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ให้ถึงร้อยละ 2 ของ GDP ภายในปี พ.ศ. 2580 นายกมล ระบุว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย จำเป็นต้องใช้แนวทางการร่วมจ่าย (co-pay) ระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยประเทศพัฒนาแล้วมีงบวิจัยสูงถึงร้อยละ 4 ของ GDP ขณะที่ประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 0.3–0.5 แม้ที่ผ่านมาเคยขยับขึ้นถึงร้อยละ 1 กว่า ๆ ก็ตาม ปัจจุบันรัฐมีงบวิจัยเพียงประมาณ 4–5 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเพิ่มเป็นระดับแสนล้านบาท พร้อมดึงดูดภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนผ่านมาตรการจูงใจที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังเสนอให้กำหนดสหกิจศึกษาเป็นภาคบังคับในทุกสาขาวิชา เพื่อเพิ่มโอกาสการมีงานทำหลังจบการศึกษา โดยเห็นว่าควรเริ่มตั้งแต่ปีที่ 1 เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และค้นหาทิศทางการพัฒนาตนเองตั้งแต่ต้น พร้อมผลักดันแนวคิด เรียนไปด้วย ฝึกงานไปด้วย เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพกำลังคนของประเทศในอนาคต

ณัฐเดช เอียดปุ่ม ข่าว/เรียบเรียง (แฟ้มภาพ)

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ