นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดงานเสวนาวิชาการวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมสัมมนาชั้น บี 2 อาคารรัฐสภา โดยมีผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมจำนวนมาก โอกาสนี้ ดร. อังเกลิคา ไคลน์ ผู้แทนมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ประจำประเทศไทย รวมถึงนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เข้าร่วมในพิธีด้วย
ประธานรัฐสภากล่าวปาฐกถาพิเศษ 93 ปี วันรัฐธรรมนูญ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของรัฐธรรมนูญไทย โดยชี้ว่า ในช่วงกว่า 93 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมากกว่า 20 ฉบับ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร ส่งผลให้รัฐธรรมนูญขาดความต่อเนื่องและไม่อาจเป็นหลักประกันสิทธิและเสถียรภาพทางการเมืองได้อย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ ประธานรัฐสภากล่าวให้เห็นภาพเปรียบเทียบว่า หากรัฐธรรมนูญเปรียบเสมือนมนุษย์คนหนึ่ง อายุ 93 ปี ถือว่าอยู่ในวัยชรา แต่ยังคงถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูกฉีก ถูกยกเลิก และถูกเขียนขึ้นใหม่หลายครั้ง ทั้งที่ความผิดพลาดไม่ได้อยู่ที่ตัวบทกฎหมาย แต่อยู่ที่ผู้ใช้อำนาจไม่เคารพกติกาและไม่ยึดโยงกับประชาชน
ประธานรัฐสภาย้ำถึงเหตุผลด้วยว่าทำไมต้องมีวันรัฐธรรมนูญ เนื่องจากประเทศประชาธิปไตยทุกประเทศต้องมีรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด เป็นกรอบแบ่งแยกอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการอย่างชัดเจน การมีรัฐธรรมนูญจึงเป็นหัวใจของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม การเฉลิมฉลองวันรัฐธรรมนูญในปัจจุบันกลับลดความสำคัญลง เพราะประชาชนไม่มั่นใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่จะดำรงอยู่ได้ยาวนานเพียงใด ตัวอย่างอดีต เช่น รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เรียกว่าฉบับประชาชน แต่ใช้ได้เพียง 9 ปี รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ถูกยกเลิกอีกครั้งจากการรัฐประหาร แม้แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันปี 2560 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขเพื่อเปิดทางให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยึดโยงประชาชนมากขึ้น ดังนั้น ประเทศไทยต้องก้าวออกจากวัฏจักรการฉีกและเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ซ้ำซาก และควรมีรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้ายที่แก้ไขได้ตามกระบวนการ แต่ไม่ถูกยกเลิกด้วยวิธีอำนาจนอกระบบ พร้อมระบุว่าคนรุ่นนี้ควรเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยอมรับการรัฐประหาร และต้องเป็นรุ่นที่ยุติวงจรการแทรกแซงอำนาจอธิปไตยของประชาชน ขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนติดตามและมีส่วนร่วมในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินอยู่ในรัฐสภา เพราะคือจุดเริ่มต้นของการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
สำหรับกิจกรรมวันรัฐธรรมนูญที่อาคารรัฐสภาในปีนี้ ยังจัดให้มีการเสวนาในหัวข้อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายพรรคการเมืองและสถาบันพระปกเกล้า ได้แก่ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.พรรคภูมิใจไทย นายชลน่าน ศรีแก้ว สส.พรรคเพื่อไทย นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.พรรคประชาชน ศ.ดร.โกวิทย์ พวงงาม ผู้แทนสถาบันพระปกเกล้า ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนทิศทางอนาคตรัฐธรรมนูญไทยและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างฉบับใหม่ การจัดงานวันรัฐธรรมนูญของรัฐสภาจึงไม่ใช่เพียงการรำลึกอดีต แต่คือการตั้งต้นอนาคตที่หวังให้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่มั่นคง ยั่งยืน และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
ณัฐเดช เอียดปุ่ม ข่าว / เรียบเรียง