นาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงวงการกีฬาไทยและการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในฐานะที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่เพิ่งจบไปว่า การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถของนักกีฬาไทยที่ไม่ด้อยกว่าชาติใดในโลก ซึ่งการจะเป็นนักกีฬาระดับทีมชาติได้ต้องใช้เวลาฝึกฝนและลงทุนยาวนานกว่า 10 ปี และมีเพียงร้อยละ 1 ของคนไทยเท่านั้นที่มีโอกาสก้าวขึ้นไปสู่ระดับทีมชาติ ยกตัวอย่างลูกสาวของตนที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำลีลา (ระบำใต้น้ำ) ทีมชาติไทย ซึ่งต้องผ่านความพ่ายแพ้หลายครั้งก่อนจะคว้า 2 เหรียญทองในซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา กีฬาจึงไม่ใช่เพียงการแพ้ชนะ แต่เป็นเครื่องมือสร้างมิตรภาพในระดับอาเซียนและเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญของประเทศ สำหรับปัญหาที่ผ่านมาในการจัดซีเกมส์ แม้ภาพรวมการแข่งขันจะดูดี แต่ในฐานะเจ้าภาพ ประเทศไทยกลับเผชิญปัญหาด้านการบริหารจัดการอย่างหนัก ซึ่งเกิดจากการได้งบประมาณน้อยไปหรือล่าช้า รวมถึงอุปสรรคจากกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างที่ทำให้สนามแข่งขันเสร็จไม่ทันตามกำหนด บางแห่งเสร็จก่อนแข่งไม่ถึงเดือน นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าการจัดงานในครั้งนี้ขาดการมีส่วนร่วมจากสมาคมกีฬาต่างๆ และเน้นความเป็นศิลปินมากเกินไปจนทิ้งบทเรียนความสำเร็จในอดีต อย่างเช่น ควรนำแนวทางการจัดเอเชียนเกมส์ที่ธรรมศาสตร์รังสิตมาใช้ และให้คนในวงการกีฬาหรือสมาคมต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการคิดและทำมากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งนี้ กีฬาซีเกมส์เป็นเครื่องมือสร้างซอฟต์พาวเวอร์ที่ดีมาก แต่ต้องระวังไม่ให้การบริหารจัดการที่ผิดพลาดมาทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย
นาวาตรี วุฒิพงศ์ กล่าวถึงข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนากีฬาไทยในอนาคตว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสนับสนุนให้มีสนามกีฬาในทุกเมือง โดยให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเข้ามาช่วยดูแล เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยเป็นนักกีฬากันมากขึ้น การกีฬาแห่งประเทศไทยไม่ควรเน้นเรื่องผลกำไร ขาดทุน หรือการแบ่งผลประโยชน์จากการถ่ายทอดสดมากเกินไป แต่ควรเน้นความเป็นเลิศและความโปร่งใส เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศ หากไทยจะเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ต้องดำเนินการให้กระชับ ฉับไว และมีการซ้อมใหญ่ทั้งพิธีเปิดและปิดให้มากเหมือนกับการฝึกซ้อมของนักกีฬา พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า กีฬาเปรียบเสมือนสงครามประเภทหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นความเข้มแข็งของชาติ หากกีฬาของชาติไม่เข้มแข็ง ชาติอื่นก็จะมองว่าดีแต่พูด การชนะด้วยความโปร่งใสจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะพิสูจน์ความสามารถของประเทศ เปรียบเทียบการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเสมือนการฝึกซ้อมของนักกีฬาระดับโลก ที่ต้องอาศัยการเตรียมการที่ยาวนาน มีระเบียบวินัย และความพร้อมในทุกด้าน เพื่อให้เมื่อถึงเวลาลงสนามจริง ทุกอย่างจะดำเนินไปได้อย่างไร้ที่ติและน่าภาคภูมิใจ
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง