16 ม.ค. 66 - ปธ.กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา รับหนังสือจากภาคประชาสังคมขอทบทวนประกาศคณะกรรมการ สปสช. เกี่ยวกับการให้บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หลังปรับหลักเกณฑ์ใหม่ กำหนดให้รับบริการเพร็พ(PrEP) ที่หน่วยบริการตามสิทธิเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

image

        นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การสาธารณสุข วุฒิสภา รับหนังสือจากเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม อาทิ คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ มูลนิธิรักไทย สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย มูลนิธิเอ็มพลัส  มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ สถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี ขอให้พิจารณาประกาศของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและหนังสือชี้แจงแนวทางการจัดบริการยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีหลังการสัมผัส(Pre-Exposure Prophylaxis, PrEP) ในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
        นางสาวสุภาพร เพ็งโนนยาง ผู้แทนสถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี กล่าวว่า จากประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเรื่องหลักเกณฑ์ใหม่ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ในการดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2566 เกี่ยวกับการให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีนั้น  ส่งผลให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์การรักษาอื่นๆนอกสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่สามารถเข้ารับบริการป้องกันเอชไอวีได้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่ตรวจเอชไอวีโดยสมัครใจ ผู้รับบริการ PrEP และผู้ที่รับบริการถุงยางอนามัย ที่ต้องไปรับบริการที่หน่วยบริการตามสิทธิของตนเองเท่านั้น ทำให้เกิดความลำบากในการเข้ารับบริการ ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้
        อีกทั้ง เวลาในการเปิด-ปิดบริการสถานพยาบาลตามสิทธิไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิต รวมถึงยังเกิดปัญหาการตีตราและเลือกปฏิบัติที่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้ารับบริการ นอกจากนี้ กรณีหนังสือชี้แจงแนวทางการจัดบริการ PrEP ในสถานพยาบาลที่มีการปรับเปลี่ยน จากเดิมที่สั่งจ่ายยาโดยแพทย์ของหน่วยบริการ PrEP หน่วยใดก็ได้ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ปรับเป็นต้องผ่านการสั่งจ่ายโดยแพทย์ของสถานพยาบาลของรัฐเท่านั้น ส่งผลให้คลินิกหลายแห่งต้องหยุดให้บริการ ทำให้ประชาชนที่กำลังรับบริการดังกล่าวได้รับผลกระทบและมีโอกาสของการติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ กมธ.พิจารณาทบทวนประกาศคณะกรรมการ สปสช.เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการอย่างเท่าเทียมและให้การดำเนินงานด้านเอชไอวี และการเร่งรัดยุติเอดส์ของประเทศเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์อย่างมีประสิทธิภาพ
        ด้านนายแพทย์เจตน์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป


อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
สำนักประชาสัมพันธ์ สนง.วุฒิสภา  ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ