นางสาวชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย - เกาหลีใต้ พร้อมด้วยนายศรายุทธ ยิ้มยวน กรรมการกลุ่มมิตรภาพฯ นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะกรรมการและเลขานุการกลุ่มมิตรภาพฯ และนายปิยพัฒน์ สุภาวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลังวุฒิสภา ให้การรับรองคณะกรรมาธิการเตรียมการ APEC 2025 แห่งสาธารณรัฐเกาหลี นำโดย นายคิม กีฮยอน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกาหลีใต้ (Hon. Mr. Kim Gi-hyeon) ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และขยายความร่วมมือระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศ ณ ห้องรับรองพิเศษ 203 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา
โอกาสนี้ นางสาวชญาน์นันท์ กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสที่เกาหลีใต้ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ อีกทั้งชื่นชมศักยภาพด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ โดยประเทศไทยต้องการเรียนรู้การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เห็นควรที่จะผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ การลงทุน ผ่านเวทีกลุ่มมิตรภาพของรัฐสภาแต่ละประเทศ
ด้านนางสาวศศินันท์ กล่าวว่าขอชื่นชมประเทศเกาหลีใต้ ที่สามารถยับยั้งการรัฐประหารภายในประเทศได้ ซึ่งการรัฐประหารจะทำให้ประเทศติดกับดักการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเมืองของประเทศไทยจะมีความแข็งแรงเช่นเดียวกับประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเป็นโอกาสที่ประเทศสามารถเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ นายศรายุทธ กล่าวเพิ่มเติม ถึงโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือของทั้งสองประเทศด้านเกษตรกรรม โดยระบุว่าประเทศไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักมาจากภาคเกษตรกรรมขณะเดียวกันประเทศเกาหลีใต้มีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ หากทั้งสองประเทศมีความร่วมมือกันในเรื่องนี้จะทำให้การประกอบธุรกิจระหว่างกันมีการพัฒนามากยิ่งขึ้น
ด้านนายคิม กีฮยอน กล่าวว่าจากการประชุมเอเปค APEC 2022 ที่ผ่านมา ถือว่าประเทศไทยมีศักยภาพอย่างยิ่งในการจัดงาน ดังนั้นเกาหลีใต้ต้องการที่จะเรียนรู้แนวทางจัดการประชุมซึ่งเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพ APEC 2025 ขณะเดียวกันประเทศไทยและเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนานทั้งความสัมพันธ์ทางการทูต ฝ่ายบริหาร รวมถึงฝ่ายนิติบัญญัติ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการพบปะหารือกันในครั้งนี้จะสร้างความแน่นแฟ้นระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น ส่วนในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจการลงทุน แม้ว่านักลงทุนของเกาหลีใต้จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในสัดส่วนที่น้อยอยู่ แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะมีนโยบายเพิ่มเติมเรื่องการลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตการลงทุน ทั้งนี้ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีความพร้อมในการต้อนรับนักลงทุนอย่างยิ่ง ทั้งเรื่องพื้นที่การลงทุน และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจและอุตสาหกรรม จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในเวทีการประชุม APEC 2025 จะเป็นพื้นที่การหารือให้เกิดความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและเกาหลีใต้มากยิ่งขึ้น
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง
