15 ก.ย.68 – คณะอนุ กมธ. ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริง กรณีสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เสียชีวิต วันพุธที่ 17 ก.ย.นี้ หลังรับเรื่องร้องเรียนจากสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย เรียกร้องรัฐห้ามนำเข้าสิงโต-หยุดผสมพันธุ์ ห่วงหลายกรณีจะเป็นการซื้อขายสัตว์ป่าขัดอนุสัญญาไซเตส

image

        พล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง ประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา ในคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา รับการยื่นหนังสือจาก ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมกับองค์กรเครือข่าย เพื่อขอให้คณะอนุ กมธ.ติดตาม ตรวจสอบ สร้างความกระจ่างให้กับสังคมจากกรณีสิงโตในสวนสัตว์ทำร้ายเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและความปลอดภัย ขณะที่ นายสมศักดิ์ สุนทรนวภัทร ผู้ประสานงานภาครัฐ Four Paws International หนึ่งในผู้ร้องเรียนระบุว่า ต่างประเทศเพ่งเล็งถึงเรื่องจำนวนสิงโตในประเทศไทยที่มีมากเกินความจำเป็น เฉพาะปี 68 ปีเดียวมีสิงโตเพิ่มขึ้น 625 ตัว โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนในสวนสัตว์สาธารณะที่อยู่ในกำกับของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพราะการเพิ่มจำนวนของสิงโตมีนัยะเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสัตว์ป่า ที่มีความผิดตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส ดังนั้น จึงขอเสนอให้รัฐปรับปรุงนโยบายและกฎหมาย โดยให้ยุติการนำเข้าสิงโต รวมถึงแก้กฎกระทรวงห้ามไม่ให้ผสมพันธุ์ เพื่อควบคุมปริมาณสิงโตในสวนสัตว์ และห้ามไม่ให้บุคคลเลี้ยงสิงโต
        ด้าน ประธานอนุ กมธ.ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า วันอังคารที่ 16 ก.ย. นี้ จะนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวและการกีฬา และในวันพุธที่ 17 ก.ย.  คณะ อนุกมธ.ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวฯ จะลงพื้นที่ที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และตำรวจ สน.คันนายาว เพื่อพูดคุยถึงความรับผิดชอบและค้นหาสาเหตุ เพราะเรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ และในวันเดียวกันจะกลับมาประชุมคณะอนุ กมธ. ซึ่งได้เชิญภรรยาของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่เสียชีวิต มาสอบถามข้อมูลด้วย

อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ