นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ เลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม กมธ. พิจารณาศึกษาแนวทางปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กรณีข้อกล่าวหาการทุจริตของ จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมคนปัจจุบัน ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางผึ้ง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยได้เชิญผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ปลัดอำเภอบางปะกง และท้องถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าชี้แจง โดย ป.ป.ช. ระบุว่า คดีดังกล่าวเกิดจากการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ไม่แล้วเสร็จ แต่มีการเบิกจ่ายเงินครบถ้วน นายกเทศมนตรีในขณะนั้นรับทราบแต่ยังลงนามอนุมัติการเบิกจ่าย ป.ป.ช. จึงมีมติชี้มูลความผิดทางวินัยเป็นเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 และชี้มูลความผิดทางอาญา 5 ต่อ 4 ก่อนส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตภาค 2 โดยมีจำเลย 7 คน ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะอดีตนายกเทศมนตรีเป็นจำเลยที่ 1 จากนั้นศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 โดยให้เหตุผลว่าเพียงลงนามเอกสารตามที่เจ้าหน้าที่เสนอ ส่วนจำเลยที่ 2–7 รับสารภาพ ศาลลงโทษจำคุกแต่ให้รอลงอาญาและปรับ ต่อมาอัยการสูงสุดมีความเห็นไม่อุทธรณ์ แม้ ป.ป.ช. จะแย้งว่าควรอุทธรณ์เนื่องจากพฤติการณ์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผ่นดิน
นายชุติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้แทนอำเภอบางปะกงและจังหวัดฉะเชิงเทรา ชี้แจงว่าหลัง ป.ป.ช. ส่งความเห็นมาในปี พ.ศ. 2565 ไม่สามารถลงนามถอดถอนทางวินัยได้ เพราะอดีตนายกเทศมนตรีพ้นตำแหน่งเกิน 2 ปีแล้ว ซึ่งขณะนั้น จ่าเอก ยศสิงห์ ผลตำแหน่งนายกเทศมนตรีในปี พ.ศ. 2563 คณะกมธ. จึงตั้งข้อสงสัยต่อหลายประเด็น โดยเฉพาะเหตุที่อัยการไม่อุทธรณ์คดี ทั้งที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล อีกทั้งตั้งคำถามถึงความรอบคอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับรัฐมนตรี ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบเอกสารเพียงผิวเผินเช่นในอดีตหรือไม่
นายชุติพงศ์ ย้ำว่า ขณะนี้คณะกมธ.ได้รับเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และจะศึกษาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจน ยืนยันจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบคอบเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง