การประชุมวุฒิสภาที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระพิจารณารายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2567 ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) โดยนายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มสื่อสารมวลชน กล่าวอภิปรายว่า ตนเป็นอดีตบุคลากรของ Thai PBS ขอชื่นชมการดำเนินงานของสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ในการทำงานสู่ระดับสากล ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าท้ายว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยอยู่ในสายตาของชาวโลกผ่านผลงานของ Thai PBS ให้มากขึ้น สำหรับเรื่องประเด็นเสรีภาพในการทำข่าว ส่วนตัวเชื่อว่า สื่อไทยยังมีเสรีภาพค่อนข้างมาก แม้ว่าทุกวันนี้จะมีสถานการณ์ที่”ใครก็เป็นนักข่าวได้” แต่ตนยังเชื่อมั่นว่า Thai PBS มีระบบคัดกรองข้อมูลข่าววสารซึ่งเป็นที่เชื่อถือได้
ด้านนางสาวชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย สมาชิกวุฒิสภา กล่าวอภิปรายถึงยุทธศาสตร์ การดำเนินงาน และการปรับตัวของสื่อโทรทัศน์ในสู่ยุคดิจิทัล ว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ควรกำหนดแนวทางในการวางตำแหน่ง (positioning) องค์กรในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง แม้ว่าสถานีโทรทัศน์ Thai PBS จะมี Content รายการและซีรีส์หลายรายการที่ทำได้ดีมาก และมีการได้รับรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลภายในประเทศและโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pac) คำถามที่ตามมา คือ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS มี แผนที่จะต่อยอด จากรางวัลและความเก่งกาจของตนเองหรือไม่ รวมทั้งการพัฒนาโมเดลธุรกิจ (Business Model) ที่จะนำไปสู่การหารายได้ให้กับตัวองค์กรเอง นอกเหนือจากการใช้ งบประมาณของประเทศ เพียงอย่างเดียว และอาจทำให้องค์กรสามารถ นำส่งเงินคืนคลังได้ในที่สุด เพราะมี Content ที่ดีมาก นอกจากนี้ องค์กรสื่อ จำเป็นต้องปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกของดิจิทัล แพลตฟอร์มอย่างเต็มตัวในอนาคต โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมบุคลากรในองค์กรให้มีการใช้เทคโนโลยี AI ในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบการทำงานของสถานีโทรทัศน์ Thai PBS กับ สถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (China Media Group: CMG) ซึ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจภายใต้การบริหารของรัฐบาลจีน ซึ่งทำหน้าที่เป็น Agency หลักของจีนในการลงทุนและพัฒนาต่อยอดในวงการวิทยุโทรทัศน์ และแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์องค์กรสื่อไทยหลายแห่งกำลังเลิกจ้างบุคลากรจำนวนมาก จะดีหรือไม่ หากประเทศไทยมีองค์กรองค์กรหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลาง เช่นเดียวกับ CMG เพื่อเข้ามาพัฒนาวงการสื่อในประเทศ
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง