4 พ.ย. 68 - กมธ.การสาธารณสุข วุฒิสภา เข้าร่วมประชุมทวิภาคีกับ WHO แลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือด้านสาธารณสุข ยกระดับระบบสุขภาพไทยสู่การป้องกันโรคที่ยั่งยืน ด้าน WHO ยกย่องไทยต้นแบบส่งเสริมสุขภาพ หนุนสานต่อบทบาทผู้นำในเวทีสุขภาพโลก

 

image

            คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การสาธารณสุข วุฒิสภา นำโดย นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยนายแพทย์วีระพันธ์ สุวรรณามัย รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เข้าพบและหารือกับ ดร.เจเรมี ฟาร์ราร์ (Dr. Jeremy Farrar) ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการดูแลสุขภาพ (PPC) องค์การอนามัยโลก และคณะผู้บริหาร ณ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก(WHO) กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและแนวทางความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศไทยกับองค์การอนามัยโลก หวังเป็นข้อมูลสู่แนวทางพัฒนาระบบสุขภาพของไทยให้สามารถรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

           โอกาสนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้สะท้อนประเด็นสำคัญที่ประเทศไทยให้ความสำคัญ จำนวน 7 ประเด็น ได้แก่ 1. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบต่อสุขภาพ 2. การแพร่ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ (Pandemic) 3. สุขภาพจิตและภาวะเครียดในสังคม 4. โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) 5. ความยั่งยืนทางการคลังของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UHC) 6. การสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค (Balance between Prevention and Health Promotion) และ 7. การเสริมศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการแพทย์ชั้นนำของโลก นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้ยืนยันจุดยืนของประเทศไทยในการคงมาตรการห้ามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด เพื่อคุ้มครองสุขภาพของเด็กและเยาวชน โดยองค์การอนามัยโลกได้แสดงวิสัยทัศน์ชัดเจนในการปรับกระบวนทัศน์ของระบบสุขภาพโลกจาก การรักษาเมื่อเจ็บป่วย สู่การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค พร้อมเสนอแนวทางความร่วมมือกับประเทศไทยใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ การเตรียมความพร้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การส่งเสริมสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน และ การสร้างระบบการคลังสุขภาพที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมกันนี้ องค์การอนามัยโลกได้ชื่นชมประเทศไทยในฐานะประเทศต้นแบบด้านการส่งเสริมและป้องกันโรค โดยเฉพาะนโยบายภาษีเพื่อสุขภาพ เช่น ภาษียาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ตลอดจนการจัดตั้งกองทุนสุขภาพเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ

           ทั้งนี้ WHO ได้เสนอให้ประเทศไทยสานต่อบทบาทผู้นำในเวทีนานาชาติ โดยเฉพาะในการผลักดันข้อตกลงโรคระบาดใหญ่ (Pandemic Accord) และการปฏิรูประบบสุขภาพโลกให้มีเอกภาพและยั่งยืน ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า แนวทางความร่วมมือและข้อเสนอขององค์การอนามัยโลกดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างบทบาทของวุฒิสภาในการกำหนดทิศทางนโยบาย กฎหมาย และการจัดสรรงบประมาณด้านสุขภาพเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ระบบสุขภาพเชิงป้องกันที่มีความเข้มแข็ง เป็นธรรม และยั่งยืน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน คือ สุขภาพดีสำหรับทุกคน บนโลกที่ยั่งยืน

สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ

 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ