17 ธ.ค. 68 – กมธ.ติดตามงบประมาณฯ วุฒิสภา แถลงผลประชุมติดตามการใช้งบเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พบใช้งบประมาณปี 68 - 69 รวมกว่า 2,527 ล้านบาท พร้อมตั้งข้อสังเกตการใช้งบกลางจำนวน 434 ล้านบาท สะท้อนปัญหาการประมาณการงบประมาณที่ล่าช้าและไม่ครบถ้วน ก่อนมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลโครงการ แผนงาน และรายละเอียดการใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อตรวจสอบการใช้งบประมาณให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ

image

        น.ส. ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะรองโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ติดตามการบริหารงบประมาณ  วุฒิสภา พร้อมคณะ แถลงข่าวถึงผลการประชุม เรื่อง งบประมาณในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ของประเทศไทย โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) และ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย

        นางสาวภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบงบประมาณปี 2568 - 2569 วงเงินรวมประมาณ 2,527 ล้านบาท พบข้อสังเกตสำคัญเกี่ยวกับการใช้งบกลางจำนวนประมาณ 434 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องจัดสรรเพิ่มเติม โดย กกท. ชี้แจงว่าเกิดจากการประมาณการงบประมาณที่ไม่ครบถ้วน ไม่ครอบคลุม และดำเนินการล่าช้า โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายหลัก อาทิ พิธีเปิด พิธีปิด การเดินทาง ที่พัก อาหาร และการถ่ายทอดสด ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กระชั้นชิด แม้การจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติจะมีความซับซ้อน แต่ กกท.มีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันซีเกมส์มาแล้วหลายครั้ง คณะกรรมาธิการจึงเห็นว่าควรแสดงความรอบคอบและความเป็นมืออาชีพในการจัดทำคำของบประมาณให้ครบถ้วน ครอบคลุม และทันต่อระยะเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งบกลางแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความล่าช้าหรือการประมาณการที่คลาดเคลื่อนในอนาคต อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการยังเห็นว่ามีข้อมูลบางส่วนที่จำเป็นต้องได้รับการชี้แจงเพิ่มเติม เพื่อให้การใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนเป็นไปอย่างโปร่งใส จึงมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งข้อมูลรายละเอียดการของบประมาณปี 2568 และ 2569 ทั้งหมด

       ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการต้องการให้หน่วยงานนำเสนอข้อมูลโครงการและแผนงานอย่างครบถ้วน ได้แก่ รายละเอียดโครงการ ขอบเขตงาน (TOR) เป้าหมาย ตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ วิธีการประเมินผล และหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยกำหนดให้นำเสนอข้อมูลดังกล่าวในการประชุมคณะกรรมาธิการ วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น.

        นางสาวภิญญาพัชญ์ ระบุว่า คณะกรรมาธิการยังให้ความสำคัญกับประเด็นอื่น ๆ ได้แก่ กรณีข่าวการเปลี่ยนแปลงออร์แกไนเซอร์ ซึ่งจะเชิญทั้งออร์แกไนเซอร์ที่เป็นข่าวและผู้ที่ได้รับการว่าจ้างจริง รวมถึงกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ เข้าชี้แจงร่วมกัน ประเด็นการถ่ายทอดสดการแข่งขัน โดยต้องการทราบรายละเอียดตั้งแต่นโยบาย กระบวนการอนุมัติ ไปจนถึงการจัดสรรรายได้จากการถ่ายทอดสด ว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบและนำไปใช้จ่ายในด้านใด รวมถึงเหตุผลที่ไม่ใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ คณะกรรมาธิการย้ำว่า การใช้งบประมาณแผ่นดินกว่า 2,500 ล้านบาท ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า ไม่ใช่เพียงเพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปได้เท่านั้น แต่ต้องสามารถสร้างประโยชน์และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

 

อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ