นายสัมพันธ์ ชัยวิเศษจินดา ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาราคาค่าไฟฟ้า ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพลังงาน วุฒิสภา สรุปความคืบหน้าการศึกษาการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาค่าไฟฟ้า โดยมีสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) และสํานักงานคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน ร่วมให้ข้อมูล
โดยที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกําหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์การกําหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซฯ และก๊าซธรรมชาติที่นําไปใช้ในการผลิตก๊าซแอลพีจีสําหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง ให้ใช้ต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติเท่ากับราคาเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย (GULF PRICE) ส่วนก๊าซธรรมชาติสําหรับภาคไฟฟ้า ภาคขนส่ง (ก๊าซเอ็นจีวี) และภาคอุตสาหกรรมให้ใช้ราคาระบบการรวบรวมและเฉลี่ยราคาก๊าซธรรมชาติจากหลายแหล่ง (POOL PRICE) ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคาปริมาณของก๊าซธรรมชาติ
ภายหลังการพิจารณา คณะอนุกรรมาธิการได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่สำคัญ คือ ราคาเชื้อเพลิงก๊าซแบบรวมกลุ่ม (SINGLE POOL PRICE) ตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ภาคการผลิตไฟฟ้าจะได้ประโยชน์มากที่สุด ส่วนราคาต้นทุนก๊าซเฉลี่ยของประเทศ (ENERGY POOL PRICE) ตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ภาคปิโตรเคมีจะได้ประโยชน์ โดยได้ราคาวัตถุดิบในราคาจากอ่าวไทย ซึ่งอาจไม่เป็นธรรมต่ออุตสาหกรรมอื่นใช้ราคา POOL PRICE นอกจากนี้ ในอนาคตก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ภายในประเทศจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในอนาคตประเทศไทยต้องพึ่งพาก๊าซแอลเอ็นจีอย่างมาก ดังนั้น การลดราคาค่าไฟฟ้าจึงเป็นไปได้ยาก เพราะราคาก๊าซแอลเอ็นจีแพงกว่าราคาก๊าซธรรมชาติในประเทศค่อนข้างมาก ซึ่งราคาก๊าซแอลเอ็นจีถือเป็นต้นทุนเชื้อเพลิงที่รัฐไม่สามารถควบคุมราคาได้
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
อนุ กมธ.แก้ไขปัญหาราคาค่าไฟฟ้า ข้อมูล/ภาพ