นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลัง พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อม นางสาววทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. และ ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. เชิญว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. และผู้อำนวยการ (ผอ.) ศูนย์เลือกตั้ง กทม. ทั้ง 33 เขต มาร่วมประชุมเพื่อวางแผนการเลือกตั้ง และซักซ้อมความเข้าใจก่อนถึงวันที่ 3 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต
โดย นายองอาจ กล่าวว่า ในวันที่ 3 เมษายน 2566 แกนนำพรรคและว่าที่ผู้สมัครของพรรคจะเดินทางออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยรถบัสพลังงานไฟฟ้า EV เพื่อเดินทางไปยังอาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) โดยระบุถึงสาเหตุที่ใช้รถ EV เดินทางนั้น เพราะพรรคประชาธิปัตย์จริงจังในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งหากพรรคได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็จะทำการผลักดันให้ กทม. มีอากาศที่สะอาด จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการสมัครรับเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว แกนนำพรรคจะได้พาผู้สมัครฯ ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และองค์พระหลักเมือง ที่ศาลหลักเมือง และเดินเท้าไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ส่วนวันสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 4 เมษายน 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ จะได้นำว่าที่ผู้สมัครฯ ไปยื่นสมัครด้วยตัวเอง
ส่วนเรื่องกระแสตอบรับของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากได้จัดกิจกรรมรถโชว์ โพลิซี นั้น นายองอาจ กล่าวว่า ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งพรรคได้พยายามหาช่องทางที่จะนำนโยบายให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด กิจกรรมรถโชว์ โพลิซี นั้น เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ฟัง คิด ทำ คือการฟังประชาชน คิดร่วมกับประชาชน จึงต้องออกไปขอโอกาสประชาชน เพื่อเราจะได้มีโอกาสได้ลงมือทำ
ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวว่า จากการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีพบปะประชาชนวันที่ 29 มีนาคม 2566 นั้น ช่วยให้กระแสพรรคฯ ดีขึ้นหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า บุคลากรของพรรคฯ ล้วนแล้วแต่มีคุณค่า มีความหมาย ดังนั้นท่านใดก็ตามที่เข้ามามีส่วนช่วยก็ถือว่า ได้ช่วยเพิ่มความนิยมในพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้นและถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ / นายชวน หลีกภัย / นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ทุกท่านล้วนแล้วแต่มีผู้สนับสนุน หรือมี FC ของท่าน จึงมีแต่บวก มีแต่เพิ่ม ไม่มีลดแน่นอน
และต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ กังวลต่อกรณีที่ศาลปกครองจะมีการวินิจฉัยเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะอาจส่งผลต่อการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น นายองอาจ กล่าวว่า ไม่ได้กังวล และไม่ได้ติดตามอะไรเป็นพิเศษ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ซึ่งศาลจะมีความคิดเห็นอย่างไรหรือวินิจฉัยอย่างไร คงต้องรอดู และพรรคก็พร้อมปฎิบัติตามคำสั่งศาล หรือคำสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง
