24 ต.ค.66 – สว.สุนี วอนกระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงภัยจากโรคมะเร็ง หวังลดพฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคให้ได้ร้อยละ 40 เตือนทุกคนต้องตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อคัดกรองและเข้าสู่ระบบการรักษาที่ถูกต้อง

image

        นางสุนี  จึงวิโรจน์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขอปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านที่ประชุมวุฒิสภาไปยังกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง สถานการณ์โรคมะเร็งในประเทศไทย ว่า สถิติโรคมะเร็งในประเทศไทย ในเดือน ก.พ.66 พบว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ ปีละ ประมาณ 140,000 คน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 80,000 คนต่อปี คิดเป็นจำนวนเฉลี่ย 400 คนต่อวัน ถือว่าโรคมะเร็งเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุข โดยโรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรกของไทย อันดับหนึ่ง คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี รองลงมา คือ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่/มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งปากมดลูก ขณะที่สาเหตุของโรคมะเร็ง มีทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะพฤติกรรมการดำเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อม อาทิ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในชีวิตประจำวันจากอาหาร อากาศ เครื่องดื่ม และยารักษาโรค การได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และพยาธิบางชนิด

        นางสุนี กล่าวถึงสัญญาณอันตรายของโรคมะเร็ง ว่า ประกอบด้วยมีเลือดหรือสิ่งผิดปกติออกจากร่างกาย เช่น มีตกขาวมากเกินไป มีก้อนหรือตุ่มเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งของร่างกายและก้อนนั้นโตเร็วผิดปกติ หรือมีแผลเรื้อรัง มีการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ผิดปกติเปลี่ยนไปจากเดิม เสียงแหบ ไอเรื้อรัง กลืนอาหารลำบาก เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด ทั้งนี้ ประชาชนควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ตรวจหาโรคมะเร็งประจำปีเป็นระยะ ขอย้ำว่ามะเร็งระยะแรกสามารถรักษาหายได้ ตนจึงขอฝากไปยังรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขให้มีการสื่อสารรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคมะเร็ง มีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งอย่างทั่วถึง ให้เข้าสู่กระบวนการรักษาที่ถูกต้องและได้ผล ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนตั้งแต่ระดับบุคคล ระดับสังคม และระดับนโยบายของประเทศ รวมถึงการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือกฎหมายเกี่ยวกับโรคมะเร็งดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่องในการรักษาโรคมะเร็ง

        นางสุนี กล่าวด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุขควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า ปัจจุบัน ผู้ป่วยมีสิทธิในการรักษาโรคมะเร็งทุกคนจากทั้ง 3 กองทุน อาทิ สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สิทธิประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของกรมบัญชีกลาง ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างยิ่ง และหากประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงแล้วนั้นจะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 40

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ