การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รองประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยมี ผู้แทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสกลนคร จำกัด และนายสมยศ นาหมื่นหงษ์ ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ฯ ร่วมให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันข้าราชการบำนาญหลายรายซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ แม้มีรายได้ถึงหลังจากการเกษียณอายุราชการ แต่ยังคงมีรายจ่ายคงที่ ประกอบกับภาระหนี้สินจากการกู้ยืมเงินสหกรณ์ฯ และสถาบันการเงินต่าง ๆ ทำให้มีเงินคงเหลือไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ จึงต้องหาช่องทางในการกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นและเป็นหนี้เรื้อรัง ประกอบกับสหกรณ์ฯ ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ด้าน ผู้แทนจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสกลนคร จำกัด ชี้แจงว่า สหกรณ์ฯ ได้มีการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงร้อยละ 0.25 เพื่อให้ความช่วยเหลือสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนการลดดอกเบี้ยลงอีกหรือการปรับโครงสร้างหนี้นั้น จำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อเงินหมุนเวียนและสภาพคล่องของสหกรณ์ฯ รวมถึงกระทบต่อผลประโยชน์ของสมาชิกรายอื่นด้วย
ขณะที่ ผู้แทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการกำกับดูแลให้ส่วนราชการในสังกัดหักชำระหนี้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากบัญชีเงินเดือนแล้วต้องมีเงินคงเหลือไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้สินเงินกู้สวัสดิการสมาชิกสหกรณ์ฯ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 4.75 นั้น ปัจจุบันสามารถดำเนินการได้สำเร็จแล้วจำนวน 20 แห่ง จาก 115 แห่ง ซึ่งจะมีการเร่งรัดอีก 95 แห่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ กู้ยืมไปใช้ในการบริหารจัดการ สำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย
ผู้แทนจากธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน ให้ข้อมูลว่า ธนาคารได้มีมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูหลายโครงการ อาทิ การลดอัตราดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดี มาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ และวงเงินสินเชื่อสำหรับสหกรณ์ฯ นำไปเสริมสภาพคล่อง ทั้งนี้ การแก้ปัญหาหนี้สินครูจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือและบูรณาการข้อมูลจากหลายภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ภายหลังการพิจารณา กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะว่า สหกรณ์ฯ ควรพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และขอให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาข้อเสนอของผู้ร้องเรียนว่ามีส่วนใดที่สามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มผู้ร้องเรียน รวมทั้งขอให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นำส่งเอกสารประกอบการพิจารณาและข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่ กมธ. เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาศึกษาและจัดทำรายงานของ กมธ.ต่อไป
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯ สผ. ข้อมูล/ภาพ