25 มิ.ย.68- รมช.คมนาคม เผยวิปรัฐบาลเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไปก่อน พร้อมดันร่างกฎหมายเสริมสร้างสังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 4 ฉบับขึ้นมาพิจารณาก่อน มองกรณีที่พรรคภูมิใจไทยถอดตัวจากการร่วมรัฐบาล ไม่กระทบกับการพิจารณากฎหมายในสภา

image

        นางมนพร   เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สภาผู้แทนราษฎร ว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 3 ก.ค.68 ซึ่งเป็นช่วงเปิดสมัยประชุมสภาสามัญนั้น โดยปกติการประชุมสภาในวันพฤหัสบดี ช่วงเช้าจะเป็นการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา กระทู้ถามทั่วไป และกระทู้ถามแยกเฉพาะของ สส. ส่วนในช่วงบ่ายจะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมายที่คณะ กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว และในวันที่ 9 ก.ค.68 จะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมาย ซึ่งเดิมวาระของสภาฯ จะพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นลำดับแรก และตามด้วยร่างกฎหมายเสริมสร้างสังคมสันติสุข พ.ศ. .... และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมประมาณ 4 ร่าง ทั้งนี้ รัฐบาลได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างรอบด้านแล้ว ย้ำว่าร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น มีพื้นที่สำหรับเล่นกาสิโนเพียง ร้อยละ 10 เท่านั้น พื้นที่ส่วนอื่น ๆ จะแบ่งออกเป็นโซนจัดแสดงสินค้าโอทอป และสินค้าอื่น ๆ ซึ่งในช่วงปิดสมัยประชุมสภาที่ผ่านมารัฐบาลพยายามจัดเวทีสื่อสารให้ประชาชนเกิดความเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของร่างกฎหมายฉบับนี้ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ความเห็นของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ว่าเห็นควรที่จะเลื่อนร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ฯ ออกไปก่อน โดยจะเลื่อนร่างกฎหมายเสริมสร้างสังคมสันติสุขฯ และร่าง กฎหมายนิรโทษกรรม เป็นลำดับแรก

        นางมนพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ที่ตนเองรับผิดชอบมีร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฯ และร่าง พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนฯ (รฟม.) ซึ่งขณะนี้ กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว เหลือแต่ร่างกฎหมาย รฟม. ซึ่งตนจะพยายามเร่งรัดให้คณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาให้แล้วเสร็จ เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาให้เป็นกฎหมายแพ็กเกจ นำไปสู่การทำนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวมีทั้งหมด 8 มาตรา ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณามาตราที่ 4 และมาตราที่ 5 โดยสัปดาห์หน้าจะพิจารณาอีก 1 มาตรา จากนั้นจะกลับไปทบทวน ร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม และสรุปเพื่อเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภา และหากที่ประชุมสภาฯ ให้ความเห็นชอบก็จะส่งร่างกฎหมายฉบับนี้ไปสู่การพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา คาดว่าจะประกาศใช้ได้ในช่วงเดือน ก.ย. หรือ ต.ค. ซึ่งเป็นนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศไว้

        ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลแล้ว จะทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ได้ยากลำบากนั้น นางมนพร กล่าวว่า การเสนอร่างกฎหมายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับประชาชนรัฐบาลไม่ได้ยึดเพียงพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ตนเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ถ้าเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับใดเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็พร้อมสนับสนุน และ สส. ก็ถือเป็นตัวแทนของประชาชนไม่ได้มองเฉพาะผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น ส่วนข้อกังวลว่าเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาล และ สส. ฝ่ายค้านใกล้เคียงกันอาจทำให้มีปัญหาในการพิจารณากฎหมายนั้น จากการที่ตนเองได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก็เชื่อมั่นว่า สส.ทุกคนทราบดีถึงการทำหน้าที่ของตนเองในการเข้าร่วมประชุมสภาฯ เป็นองค์ประชุมทุกครั้ง ไม่ขาดประชุม ก็จะทำให้การพิจารณากฎหมายสามารถดำเนินต่อไปได้ 

        นางมนพร กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์   เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาชน เรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อนเนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม ว่า รัฐบาลยืนยันว่าพร้อมรับฟังทุกเสียงที่มีความเห็นต่างและมีความกังวลในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมารัฐบาลยังขาดการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในวงกว้าง แต่ย้้ำว่า เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ มีพื้นที่กาสิโนเพียง ร้อยละ 10 เท่านั้น รัฐบาลจึงขอให้วิปรัฐบาลทบทวนและเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ถูกบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภา ไปแล้ว การที่จะถอนร่างกฎหมายออกหรือไม่ เป็นสิทธิของที่ประชุมสภาจะพิจารณา

 

ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ