โดย
การแข่งขันสภาวาที ในโครงการโต้วาทีสร้างสรรค์สังคม สภาวาที ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 68 ซึ่งสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จัดขึ้น เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในวันนี้เป็นการแข่งขันให้เหลือผู้เข้ารอบ 8 ทีม เป็นวันที่สี่ วันสุดท้าย จากจำนวนการแข่งขันทั้งหมด 4 วัน ( วันที่ 4- 7 ส.ค. 68) คู่แข่งขันคู่แรกของวันนี้ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช - โรงเรียนสุรนารีวิทยา จังหวัดนครราชสีมา คู่แข่งขันคู่ที่สอง โรงเรียนโนนสูงศรีธานี จังหวัดนครราชสีมา - โรงเรียนวารีเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคณะกรรมการตัดสินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพูด การใช้ภาษาไทย และการโต้วาที ได้แก่ อาจารย์กรรณิกา ธรรมเกษร อาจารย์พะเยาว์ พัฒนพงศ์ อาจารย์อภิชาติ ดำดี นายสมชาย หนองฮี นางสาวสายสวรรค์ ขยันยิ่ง นายบุญมา ศรีหมาด นายจักรกฤต โยมพะยอม และมีกรรมการกิตติมศักดิ์ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และนายกันต์พษ์ ประยูรศักดิ์ สส. ร่วมให้คะแนะนำกับผู้แข่งขัน
สำหรับบรรยากาศการแข่งขันคู่ที่ 1 โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราชเป็นฝ่ายเสนอ และโรงเรียนสุรนารีวิทยาเป็นฝ่ายค้าน ในญัตติการส่งเสริมการท่องเที่ยวคือทางออกของเศรษฐกิจไทย โดยฝ่ายเสนอได้ชี้ให้ผู้ชมเห็นถึงภาวะเศรษฐกิจไทยที่ตกต่ำ และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้การท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นรายได้หลักของประเทศเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศ การสนับสนุน soft power ให้เป็นเครื่องมือในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขณะที่ฝ่ายค้านมองว่าทางออกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่เพียงแต่การท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะภาคการท่องเที่ยวไม่อาจมีความยั่งยืนเสมอไป โดยยกตัวอย่างให้เห็นถึงช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่การท่องเที่ยวหยุดชะงัก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการพัฒนาทักษะทรัพยากรมนุษย์ของประเทศเพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศโดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ โอกาสนี้ นายอนุสรณ์ ในฐานะผู้เคยเป็นนักโต้วาทีให้ข้อเสนอแนะกับทั้ง 2 ทีมถึงความเป็นธรรมชาติในการโต้วาทีโดยไม่ยึดติดกับการท่องจำเนื้อหาแต่ขอให้พูดจากความเข้าใจ ตลอดจนการหาข้อโต้แย้งฝ่ายตรงข้ามให้ชัดเจน และตีความญัตติให้กระจ่าง นอกจากนี้ยังแสดงความยินดีแก่ทุกโรงเรียนที่ผ่านเข้ารอบการแข่งขัน 16 ทีมสุดท้ายด้วย
ส่วนการแข่งขันโต้วาทีของคู่ที่ 2 โรงเรียนโนนสูงศรีธานี เป็นฝ่ายเสนอ และยังโรงเรียนวารีเชียงใหม่เป็นฝ่ายค้าน ในญัตตินักเรียนควรมุ่งฝึกอาชีพมากกว่ามุ่งเรียนมหาวิทยาลัย โดยฝ่ายเสนอพยายามชี้ให้เห็นว่าการมีทักษะเฉพาะด้านและมีประสบการณ์ที่โดดเด่นจะทำให้ผู้เรียนสามารถมีประสบการณ์ที่ดีและปูทางไปสู่การประกอบอาชีพที่หลากหลายได้ในอนาคต ขณะที่ฝ่ายค้านหมอว่าการมีทักษะความรู้ในเชิงลึกจะทำให้เป็นที่ต้องการของบริษัทต่าง ๆ และมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตได้มากกว่าโดยจำเป็นต้องใช้ใบปริญญา ซึ่งต้องผ่านการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยเสียก่อน โอกาสนี้นายกันต์พงษ์ กล่าวชื่นชมความสามารถของผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 ทีม และได้ให้ข้อเสนอแนะแก่ทั้ง 2 ทีมโดยระบุว่าในชีวิตจริง การฝึกทักษะอาชีพและการเรียนมหาวิทยาลัยควรมีความควบคู่กันไป เพราะโลกปัจจุบันคือโลกแห่งการเรียนรู้รอบด้าน การมีทักษะทางอาชีพที่ดีและมีความรู้จากการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยจะทำให้ผู้เรียนสามารถเดินไปสู่เป้าหมายได้ไวยิ่งขึ้น
ภายหลังการแข่งขันอย่างเข้มข้นของทั้ง 2 คู่ ผลปรากฏว่า โรงเรียนสุรนารีวิทยา และโรงเรียนวารีเชียงใหม่ เป็น 2 โรงเรียนที่เข้ารอบสู่การแข่งขัน 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะจัดการแข่งขันในวันที่ 19 ส.ค. 68 ในชื่อญัตติวินัยควรเริ่มจากโรงเรียนมากกว่าครอบครัว โรงเรียนสุรนารีวิทยา เป็นฝ่ายเสนอ และโรงเรียนวารีเชียงใหม่ เป็นฝ่ายค้าน ผู้สนใจสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านทางช่องทางออนไลน์ของสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ช่อง Youtube TP channel แอปพลิเคชัน TP channel ระบบ OTT เพจเฟซบุ๊กวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา และ เพจเฟซบุ๊ก TP Online – สื่อรัฐสภาเพื่อประชาชน
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
