พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และคณะ ที่เดินทางเข้าให้กำลังใจและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อนำไปให้กับทหารในการปฏิบัติภารกิจชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมกันนี้แม่ทัพภาคที่ 2 ได้รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ต่อประธานรัฐสภาว่าเหตุปะทะกันบริเวณปราสาทตาเมือนธมเกิดจากฝ่ายกัมพูชารุกล้ำเข้ามาประมาณ 100–150 เมตร และวางกับดักระเบิด รวมถึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ทหารไทย ทางกองทัพได้ใช้แนวทางแก้ปัญหาจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากการเจรจา ก่อนเกิดเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดใหม่ 2 ครั้ง ซึ่งฝั่งกัมพูชาไม่เคารพอนุสัญญาออตตาวา ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายยังตรึงกำลังในจุดที่ยึดได้หลังการเจรจาหยุดยิง และอยู่ระหว่างการหารือภายใต้กรอบคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission : JBC) รวมถึงเตรียมประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) ภายใน 2 สัปดาห์หลงจากนี้ นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า ทหารไทยจะคงอยู่ในตำแหน่งที่ยึดได้ ไม่ถอยกลับ พร้อมขอความร่วมมือไปยังประชาชนว่าหากพบวัตถุระเบิดที่ยังไม่ทำงานให้รีบแจ้งฝ่ายความมั่นคงทันที โดยคาดว่าระเบิดจะอยู่เฉพาะแนวชายแดนไม่กระจายถึงชุมชน
สำหรับพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่าฝ่ายกัมพูชาพยายามใช้กำลังหลักพันเข้ายึด โดยเฉพาะปราสาทตาควายที่มีฐานทหารอยู่ใกล้มากและวางระเบิดเต็มแนว การเข้าไปต้องเจาะพื้นที่ ซึ่งยังไม่สามารถเข้าถึงตัวปราสาทได้ เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีความเข้มแข็งสูงและกรณีสถานการณ์อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้แจงว่าต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือโดรนชายแดนและในประเทศ โดยการใช้โดรนตามแนวชายแดนเป็นเรื่องยุทธวิธีปกติ ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาต่างมีใช้งาน โดยฝ่ายตรงข้ามมีเครือข่ายยุทธภัณฑ์บินลาดตระเวนได้ทั้งกลางวันและกลางคืน และเคยใช้โดรนบินสอดส่องเครื่องบิน บ้านพักผู้นำทหาร สนามบิน และคลังอาวุธ กองทัพจึงประสานผู้ว่าราชการ 20 จังหวัดชายแดน บูรณาการหาอุปกรณ์ต่อต้านโดรน พร้อมฝากให้รัฐสภาพิจารณานำเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ความมั่นคง เนื่องจากหลายประเทศมีการสอนการใช้อากาศยานไร้คนขับในหลักสูตรทางทหารแล้ว อย่างไรก็ตามขอให้คำมั่นกับคนไทยว่าจะใช้ระยะเวลาราชการที่เหลืออยู่ แม้จะเหลือเพียง 51 วันเกษียณอายุราชการ จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทย และเชื่อมั่นในศักยภาพผู้นำของแม่ทัพคนต่อไปว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง