นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววิทยุรัฐสภา ถึงความกังวลต่อสถานการณ์ข่าวปลอม (Fake News) ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะปัญหาคนไทยยังมีทักษะการรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) ไม่เพียงพอ ทั้งด้านการรับรู้และการตัดสินใจว่าแหล่งข่าวใดเชื่อถือได้ จึงควรเร่งปลูกฝังผ่านระบบการศึกษา ครอบคลุมทั้งเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุซึ่งมักตกเป็นเหยื่อข้อมูลบิดเบือนที่เผยแพร่ทางไลน์และเฟซบุ๊ก รวมถึงควรสอนวิธีตรวจสอบข่าว ข้อความ หรือภาพตัดต่อด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าอะไรควรเชื่อ อะไรควรตั้งคำถาม และสามารถตรวจสอบความจริงได้
เมื่อถามถึงข้อเปรียบเทียบว่าฝ่ายกัมพูชามีการสื่อสารเชิงรุก แม้บางเรื่องจะเป็นข่าวปลอมแต่มีการแถลงต่อเนื่อง นายพรชัยระบุว่า ไทยควรดำเนินการลักษณะเดียวกัน โดยเสนอให้จัดตั้ง One Stop Information Service เป็นศูนย์ข้อมูลกลางในสถานการณ์วิกฤติ ปัจจุบันแม้ศูนย์บริหารสถานการณ์ไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) จะมีโฆษกแถลงวันละ 2 ครั้ง แต่มีผู้เข้าถึงเพียงหลักหมื่น ซึ่งถือว่าน้อยเกินไป จึงควรดึงผู้ที่มีทักษะการสื่อสารและมีอิทธิพลในสังคม (Influencer) มาช่วยเผยแพร่ข้อมูลทุก 1–2 ชั่วโมง โดยเนื้อหาต้องเป็นข้อความเดียวกันและสื่อสารหลายภาษา เพื่อให้ต่างประเทศได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมโต้ข่าวปลอมทันทีที่ฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกนำไปเผยแพร่ซ้ำในสื่อโลก
นอกจากนี้ นายพรชัยยังฝากความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดนและศูนย์อพยพ พร้อมอวยพรให้ทุกคนปลอดภัย โดยเน้นว่าความปลอดภัยขึ้นอยู่กับข้อมูลเตือนภัยจากภาครัฐที่เป็นจริง ทันท่วงที และครบถ้วน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนรับรู้และปฏิบัติตามได้ทันเวลา
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
