10 ส.ค. 68 - ประธานฯรัฐสภา ย้ำฝ่ายนิติบัญญัติพร้อมหนุนทหารกล้าในการรักษาอธิปไตยไทย ขณะเดียวกันเร่งประสานสนับสนุนอากาศยานไร้คนขับและระบบแอนตี้โดรน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันประเทศ รวมทั้งยืนยันใช้ทุกช่องทางสื่อสารให้นานาชาติรับรู้ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

image

            นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ภายหลังพบปะแม่ทัพภาคที่ 2 และเข้าเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ณ กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และโรงพยาบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าฝ่ายนิติบัญญัติ หรือประชาชน พร้อมจะให้กำลังใจทหารกล้าทุกนายซึ่งปฎิบัติหน้าที่มาโดยตลอด ขณะเดียวกันการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สส.แต่ละคนต่างนำปัญหาที่เกิดขึ้นในชายแดนไปปรึกษาหารือ และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตอบชี้แจงถึงการให้ความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ และการดูแลประชาชนในศูนย์อพยพต่าง ๆ เป็นอย่างดี ทั้งนี้จากการรับฟังการบรรยายสรุปจาก พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ช่วยให้สังคมคลายความกังวลไปได้ เพราะทำให้รู้ว่ากองทัพมีความพร้อมและมีแผนปฏิบัติการ ที่ทำให้มั่นใจว่าไทยจะไม่ยอมเสียอธิปไตยให้กับฝ่ายตรงข้าม

          เมื่อถามว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฝากอะไรให้ฝ่ายนิติบัญญัติได้ขับเคลื่อนหรือไม่ ประธานรัฐสภา ระบุว่า แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการทำสงครามในพื้นราบ จำเป็นต้องรักษาพื้นที่ที่ยึดมาได้โดยจะไม่ยอมเสียให้กับฝ่ายตรงข้าม และจะไม่ถอยออกจากที่มั่นที่ยึดได้ตั้งแต่ตอนต้น แต่ยอมรับว่ายังมีบางจุดที่ต้องอาศัยความรอบคอบในการสู้รบกัน ส่วนข้อห่วงใยที่ทางแม่ทัพภาคที่ 2 ฝากถึงรัฐสภาเกี่ยวกับการขอสนับสนุน คือเรื่องอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน และระบบแอนตี้โดรน ประธานรัฐสภาระบุว่าจะรับไว้และดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อจัดสรรงบประมาณ รวมถึงจัดบุคลากรที่มีความรู้ในเรื่องการใช้โดรน 

           ประธานรัฐสภา ยังกล่าวให้กำลังใจทหารแนวหน้าที่กำลังตรึงกำลังอยู่ในขณะนี้ ว่าในนามรัฐสภา ที่เป็นตัวแทนของประชาชน ขอให้กำลังใจทหารหาญทุกนาย แม้ว่าการหยุดยิงจะทำให้ไม่เกิดการสูญเสียแต่ทหารยังต้องตรึงกำลังต่อไปเพื่อรักษาดินแดน รัฐสภาในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ พร้อมให้การสนับสนุนในทุกด้าน และพร้อมใช้ทุกช่องทางเพื่อสื่อสารให้กับนานาประเทศได้เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ถูกโจมตีจากฝ่ายกัมพูชาก่อน นอกจากนี้ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข้อเท็จจริง ทำให้สังคมและนานาประเทศเกิดความเข้าใจถึงชนวนเหตุของการสู้รบครั้งนี้  

 

ณัฐเดชเอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ