13 ส.ค. 68 - สส.จิตติพจน์ จากพรรครัฐบาล และ สส.ศุภณัฐ จากพรรคฝ่ายค้าน ต่างเสนอขอปรับลดตัวเลขงบประมาณรวม ปี 69 ห่วงภาวะเศรษฐกิจกระทบจากสถานการณ์ชายแดน และนโยบายภาษีสหรัฐฯ แนะชั่งน้ำหนักดูความจำเป็น งบก่อสร้างไร้ประสิทธิภาพ หนุนพัฒนาระบบดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐาน กันงบเพื่อเยียวยาเหตุการณ์ชายแดน

image

           นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในวาระที่ 2 ซึ่งเป็นการอภิปรายสงวนตำแปรญัตติที่เสนอขอให้มีการปรับลดงบประมาณโดยรวม 3% เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจขณะนี้มีความไม่แน่นอน ทั้งวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีนำเข้าสหรัฐ และภัยธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้รายได้ของรัฐบาลจัดเก็บไม่เข้าเป้า ส่งผลให้ GDP ปี พ.ศ. 2569 ไม่ถึง 20 ล้านล้านบาท และอัตราหนี้สาธารณะต่อ GDP เข้าใกล้ 70% จึงควรใช้งบอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด

          นายจิตติพจน์ เสนอให้ลดค่าใช้จ่ายประจำ โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เกินความจำเป็น พร้อมปรับระบบราชการให้กระชับ คล่องตัว (Lean Government) และเร่งพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ให้เชื่อมโยงฐานข้อมูลหน่วยงานรัฐ ลดเอกสารซ้ำซ้อน และพัฒนาระบบ Digital ID ให้เสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังเสนอให้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟทางคู่อีสานใต้ (กรุงเทพฯ –อุบลราชธานี) ให้แล้วเสร็จใน 3–5 ปี แม้ต้องใช้งบเพิ่มและหนี้ต่อ GDP สูงขึ้นชั่วคราว แต่เชื่อว่าจะคุ้มค่าในระยะยาว พร้อมกันงบประมาณไว้เยียวยาประชาชน 7 จังหวัดชายแดนกว่า 1 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดและผลกระทบด้านการค้า

         ขณะที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ภาวะเศรษฐกิจปีนี้ย่ำแย่จากปัญหาภาษีทรัมป์ ชายแดน การสวมสิทธิ์การค้า อุตสาหกรรมเก่าปรับตัวไม่ได้ ภาคอสังหาริมทรัพย์มี ปริมาณสินค้าล้นตลาด (oversupply) และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่ภาพรวมการตั้งงบประมาณปี พ.ศ. 2569 ยังไร้ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะงบด้านที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ขอมากว่า 300,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 57% สร้างถนน สะพาน ท่าเรือ สนามบิน 30% สร้างเขื่อนและระบบชลประทาน และ 13% สร้างอาคาร พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาล พร้อมระบุว่าการจัดสรรงบประมาณนี้มีปัญหาซ้ำซาก 8 ประเด็น ได้แก่ 1.ขอสิ่งที่ไม่ควรขอ เช่น บ้านพักผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ราคา 91 ล้านบาท แลการสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซ้ำซ้อน 2.ก่อสร้างใหญ่เกินจำเป็น ไม่สอดคล้องกับจำนวนบุคลากร 3.ราคาต่อหน่วยสูงเกินจริง 4.ขาดการบูรณาการ ใช้ทรัพยากรร่วมกันไม่ได้ 5.ชอบสร้างมากกว่าเช่า แม้เช่าจะถูกกว่า 6.หน่วยงานรัฐแข่งขันกับเอกชนแทนที่จะกำกับดูแล 7.ใช้ที่ดินเปลืองเกินจำเป็น และ 8.จัดสรรงบผิดฝาผิดตัว ทำงานแทนภารกิจของหน่วยงานอื่น ดังนั้นจากเหตุผลดังกล่าว นายศุภณัฐ จึงเสนอปรับลดงบประมาณรวมลง 1% เพื่อนำไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างแท้จริง

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ