การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงินงบประมาณ จำนวน 3,780,600 ล้านบาท โดยที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ใช้เวลาในการอภิปรายสามวันระหว่างวันที่ 13 ถึง 15 สิงหาคม 2568 ภายหลังสมาชิกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ร่วมอภิปรายถึงเหตุผลในการขอปรับลดงบประมาณ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในวาระ 2 รวม 41 มาตรา และมีการลงมติตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมากในมาตราที่มีการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้ว ท้ายที่ประชุมมีมติในวาระ 3 เห็นชอบกับร่างกฎหมายนี้ทั้งฉบับ ด้วยเสียง 257 เสียงไม่เห็นชอบ 230 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง จากผู้ร่วมประชุม 487 คน
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กล่าวขอบคุณ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ที่ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ ให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความจำเป็นความต้องการในพื้นที่ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการ สำหรับข้อคิดเห็น คำแนะนำ ข้อเสนอรวมทั้งความห่วงใยที่สมาชิกฯได้เสนอแนะไว้ ตลอดระยะเวลาการประชุมฯ รัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณและจะได้นำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณมากที่สุด และขอขอบคุณกรรมาธิการวิสามัญทุกท่านที่ได้เสียสละเวลาและร่วมมือกันในการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2569 อย่างเต็มที่จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีโดยข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการรัฐบาลจะได้นำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ขอให้ความมั่นใจว่านโยบาย มาตรการ การพิจารณาและงบประมาณที่ได้ผ่านการพิจารณาในครั้งนี้จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และแผนงานที่กำหนดโดยรัฐบาลจะกำกับดูแลเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวมีความโปร่งใสตรวจสอบได้และบรรลุสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่กำหนดไว้เพื่อขับเคลื่อนประเทศภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามเจตนารมย์รัฐบาล และความมุ่งมั่นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่านต่อไป
โดยหลังจากสภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบแล้ว สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะส่งร่างไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณา ซึ่งวุฒิสภาต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 20 วันนับแต่วันรับร่าง
ณรารัฏฐ์ โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง