วุฒิสภา ไว้อาลัยพระพันปีหลวง ก่อนเข้าสู่กระทู้ถามคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตไทยตกต่ำ

          นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมวุฒิสภา โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้แจ้งต่อสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รับทราบประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคตพร้อมให้สมาชิกวุฒิสภา ได้ยืนไว้อาลัย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และร่วมแสดงความอาลัย ต่อการเสด็จสู่สวรรคาลัย
          จากนั้นที่ประชุมพิจารณากระทู้ถาม ของนายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. เรื่อง การยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ถามไปยังนายกรัฐมนตรี โดยนายแพทย์ เปรมศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Traกsparency International หรือ TI) ได้เผยแพร่ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ประจำปี พ.ศ. 2567 จากจำนวน 180 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศเดนมาร์ก ครองตำแหน่งอันดับที่ 1 ของโลก ด้วยคะแนนสูงสุด 90 คะแนน ส่วนประเทศไทยได้ 34 คะแนน ลดลงจากปีก่อนที่ได้ 35 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 107 ของโลก จากอันดับที่ 108 ในปีที่แล้ว และอยู่ในอันดับที่ 5 ของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยสาเหตุที่คะแนนของประเทศไทยลดลง เนื่องมาจากเจตจำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริตที่ไม่ชัดเจน การขาดความโปร่งใส่ในการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ นักลงทุนที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะต้องเชิญกับการเรียกรับเงิน หรือการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐในการประกอบธุรกิจ นักลงทุนต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นและเห็นว่าปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยต้องการทราบว่า รัฐบาลมีนโยบายในการต่อต้านการทุจริตหรือไม่ เพื่อยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทยให้สูงขึ้นและเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างประเทศในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
           รัฐบาลมีมาตรการทางกฎหมายทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงลงโทษผู้กระทำการทุจริตหรือไม่ เพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้นักลงทุนต่างประเทศต้องเผชิญกับการเรียกรับเงินและการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ และ รัฐบาลมีแนวทางในการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ ในการต่อต้านการทุจริตมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศไทย และหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการดูแลและแก้ไขปัญหาให้แก่นักลงทุนต่างประเทศที่ประสบปัญหาการทุจริตในประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร
          พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาตอบกระทู้ถามแทน ชี้แจงว่า รัฐบาลได้ยึดถือตามการประกาศเจตจำนงทางการเมือง ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นหลักการบริหารราชการแผ่นดิน 3 ประการ ได้แก่ การพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ การยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและการบริหารราชการ แผ่นดินบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล
          ซึ่งมีนโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและยกระดับคะแนน CPI รัฐบาลได้กำหนดนโยบายสำคัญด้วยรักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด การขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยร่วมมือกับ สำนักงาน ป.ป.ช., สำนักงาน ป.ป.ท., ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จับกุม ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เร่งรัดการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลควบคู่กับการผลักดันการเปิดเผยข้อมูลเปิดของภาครัฐ เร่งรัดการปฏิรูปกฎหมาย กฎระเบียบ โดยยกเลิกสิ่งที่เป็นอุปสรรค และสร้างภาระที่ไม่จำเป็นแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
          นอกจากนี้ การดำเนินการแก้ไขปัญหาและป้องกันการเรียกรับสินบนสำหรับนักลงทุนต่างชาติอย่างเด็ดขาดนั้น ได้ดำเนินการผ่าน "ศูนย์ขับเคลื่อนการบริการภาครัฐสำหรับนักลงทุนและชาวต่างชาติ" (ศบช.) ของสำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นศูนย์กลางงานวิชาการด้านข้อมูลการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนและชาวต่างชาติ ประสานงานด้านการอำนวยความสะดวกในการลงทุนระหว่างนักลงทุนกับหน่วยงานภาครัฐ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐหรือ หน่วยงานภาครัฐ - การดำเนินการในพื้นที่เฉพาะ โดย สำนักงาน ป.ป.ท. ได้จัดตั้ง "ศูนย์ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการภาครัฐในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)" เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตติดสินบนในพื้นที่ EEC และยกระดับคะแนน CPI ได้
          ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมุ่งสู่การเป็นสมาชิก องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ด้วยการสนับสนุนการสมัครเข้าเป็นสมาชิก OECD ซึ่งจะเป็นการปฏิรูปโครงสร้างประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทั้งด้านความสามารถในการแข่งขัน การสร้างธรรมาภิบาล และความมุ่งมั่นในการต่อต้านการทุจริต อันจะส่งเสริมให้ระดับคะแนน CPI ของประเทศไทยสูงขึ้น

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง