นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 151 (151st IPU Assembly) นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาครั้งที่ 151 เป็นวันที่สองของการประชุม ณ ศูนย์ประชุม CICG นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
โดยที่ประชุม ได้มีการประชุมคณะมนตรีบริหารในช่วงเช้า โดยประการในที่ประชุมเป็นรองประธานสหภาพรัฐสภาทำหน้าที่ทางประธานสหภาพรัฐสภา การต้อนรับสมาชิกผู้เข้าร่วมการประชุมทุกคน และแจ้งถึงเหตุจำเป็นที่ประธานสหภาพรัฐสภาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เนื่องจากติดวาระการเลือกตั้งภายในประเทศ ประธานสหภาพรัฐสภา ได้ส่งต่อข้อความแสดงความยินดี และขอให้การประชุม รวมถึงการอภิปรายทั่วไปเต็มไปด้วยประโยชน์ และสร้างเสริมความเข้มแข็งให้กับสหภาพรัฐสภาและประชาคมโลกต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะมนตรีบริหารได้มีการเห็นชอบไปเปรียบวาระการประชุม และให้การรับรอง รายงานการประชุมคณะมนตรีบริหารครั้งที่ 215 จากนั้นที่ประชุม ได้มีการพิจารณา การเลือกประธานสหภาพรัฐสภาครั้งที่ 151 และประธานสหภาพรัฐสภาครั้งที่ 150 ได้มีการรายงานข่าวที่ประชุมเกี่ยวกับกิจกรรม ของคณะมนตรีบริหาร และคณะกรรมการบริหาร จากนั้นเป็นรายงานของเลขาธิการสหภาพรัฐสภาเกี่ยวกับการดำเนินการของสหภาพรัฐสภานับตั้งแต่ การประชุมคณะมนตรีบริหารครั้งที่ 215 รายงานการเงินของทางภาครัฐสภา งบประมาณของสหภาพรัฐสภา การแก้ไขธรรมนูญของสหภาพรัฐสภา สรุปการประชุม ประธานรัฐสภาโลกครั้งที่ 6 ที่ผ่านมาและนครเจนีวา การประชุมต่าง ๆ ภายใต้กรอบของสหภาพรัฐสภาในอนาคต การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารของสหภาพรัฐสภา และกิจกรรมอื่นๆของคณะกรรมาธิการ และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) ครั้งที่ 151 ช่วงอภิปรายทั่วไป (General Debate) ภายใต้หัวข้อ “การยึดมั่นในบรรทัดฐานด้านมนุษยธรรมและการสนับสนุนการปฏิบัติด้านมนุษยธรรมในยามวิกฤติ” โดยย้ำว่า ไทยมีความเชื่อมั่นมั่นคงในหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และพร้อมทำงานร่วมกับรัฐสภาทั่วโลกเพื่อคุ้มครองชีวิตประชาชนและส่งเสริมสันติภาพ ซึ่งปัจจุบันโลกเผชิญวิกฤติความขัดแย้งกว่า 120 กรณี มีผู้พลัดถิ่นกว่า 122 ล้านคน และประชาชนกว่า 310 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกประเทศร่วมกันเสริมสร้างระบบพหุภาคีและยึดมั่นในหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
พร้อมกันนี้ ประธานรัฐสภาไทย ได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า ไทยไม่ประสงค์ใช้เวทีของฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อโจมตีหรือขยายความขัดแย้ง แต่ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่พยายามผลักดันสถานการณ์ให้คลี่คลายไปในทางที่ดี พร้อมยืนยันว่า ความรุนแรงไม่เคยสร้างประโยชน์ใด ๆ มีแต่จะสร้างความสูญเสียและบาดแผลที่อยากลบเลือน พร้อมย้ำว่า ไทยยังคงยึดมั่นในหลักสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ และแนวทางอาเซียนในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีผ่านช่องทางทวิภาคี
ประธานรัฐสภาไทย ยังได้แสดงความกังวลต่อการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง การรุกล้ำอธิปไตยของไทย พร้อมทั้งเชิญชวนให้สมาชิกรัฐสภาทั่วโลก สนับสนุนร่างมติของไทยว่าด้วย การเสริมสร้างบทบาทของรัฐสภาในการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ข้ามพรมแดน ควบคู่กับการธำรงไว้ซึ่งหลักมนุษยธรรม โดยเน้นว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ได้สร้างความเสียหายแก่ประชาชนทั่วโลก และการร่วมมือกันของฝ่ายนิติบัญญัติจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน รัฐสภาคือเวทีแห่งการสนทนา ความเมตตา และการปกป้องผู้เปราะบางที่สุดของสังคม ประเทศไทยพร้อมทำงานร่วมกับรัฐสภาทั่วโลก เพื่อคุ้มครองบรรทัดฐานมนุษยธรรม และสร้างสะพานแห่งสันติภาพเพื่อมนุษยชาติ
สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ สผ.ข้อมูล/ภาพ
