โดย
นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมนายรังสรรค์ มณีรัตน์ ส.ส. จังหวัดลำพูน พรรคเพื่อไทย และคณะ รับการยื่นแถลงการณ์เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน จาก นายณัฐชนน ไพโรจน์ ผู้แทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน และคณะ โดยมีรายละเอียดระบุ ว่าตามที่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. .... หรือ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน (ปชน.) ในปัจจุบัน) เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยผลการพิจารณาปรากฏว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพียง 3 ฉบับ คือ ฉบับของ รทสช. พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และ ภท. เข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ต่อมาในชั้น กมธ. มีการประชุมพิจารณาร่างฯ ทั้งหมด 9 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.68 โดยมีการแก้ไขรายละเอียดและเพิ่มฐานความผิดจากเดิม แต่ผลสรุปร่างกฎหมายนี้ยังคงไม่ครอบคลุมผู้กระทำผิดฐานประทุษร้ายพระราชินีตามประมวลกฎหมายอาญษมาตรา 110 และความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แม้จะมีหลักฐานจำนวนมากชี้ว่าคดีเหล่านี้เป็นคดีทางการเมืองจริงในช่วงปี 63 ถึงวันที่ 16 ก.ค. 68 การไม่รวมมาตรา 111 และ 112 ให้ได้รับการนิรโทษกรรม ถือว่าขัดกับแนวปฏิบัติการนิรโทษกรรมในอดีตที่นิรโทษกรรมครอบคลุมทุกคดีทางการเมืองโดยไม่แบ่งแยก ขณะเดียวกันพบว่าร่างกฎหมายที่ผ่านการพิจารณาของ กมธ. กลับนิรโทษกรรมให้คดีกบฏและคดีก่อการร้ายที่มีอัตราโทษสูงกว่า รวมถึงคดีแพ่งเกี่ยวกับการปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ส่วนคดีที่เกิดจากการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญกลับไม่ได้รับการนิรโทษ เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนจึงเห็นว่า แม้ร่างกฎหมายจะใช้ชื่อสร้างเสริมสังคมสันติสุข แต่จะไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองได้จริง เพราะยังเลือกปฏิบัติ นิรโทษให้เฉพาะพวกพ้องบางกลุ่ม แต่ประชาชนบางส่วนยังถูกทอดทิ้ง ถูกอ้างว่าไม่ใช่เหยื่อของความขัดแย้งหรือไม่ใช่จำเลยคดีการเมือง อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ยังมีทางออก เนื่องจากมี สส. สงวนความเห็นและสงวนคำแปรญัตติไว้ให้ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมรวมความผิดใน 2 มาตราดังกล่าว และขอเรียกร้องให้ 3 พรรคการเมือง ในฐานะที่เป็นพรรคที่มีจำนวน สส. มากที่สุด ให้พิจารณาเห็นชอบตามที่มี สส. สงวนความเห็น 2 มาตราดังกล่าว เพื่อให้การนิรโทษกรรมครอบคลุมทุกคน ทุกคดีทางการเมือง ไม่แบ่งแยกตามสีเสื้อหรือความเชื่อทางการเมือง เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ทุกคน แก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง กลับความอยุติธรรมให้กลายเป็นความยุติธรรม ทำให้เกิดการนิรโทษกรรมอย่างเท่าเทียม และสร้างเสริมสังคมสันติสุขได้อย่างแท้จริง
นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กรุงเทพมหานคร ปชน. กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตนในฐานะ กมธ. ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ มองว่าวันนี้ (21 ต.ค.68) เป็นอีกวันสำคัญของประเทศไทย ที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. .... หรือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระที่ 2 และ 3 ตนขอให้ประชาชนทุกคนติดตามการอภิปรายของ สส. และการให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมาย ซึ่งตนเชื่อว่าด้วยบรรยากาศทางเมืองที่เปลี่ยนไปในขณะนี้ อาจจะมีแนวโน้มที่ดีได้ สำหรับข้อร้องเรียนนี้พรรค ปชน. และ พท. จะนำแถลงการณ์ไปพิจารณาร่วมกัน ด้าน นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ส.ส. จังหวัดลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า พท. และ ปชน. จะนำร่างฯ ฉบับนี้ไปพิจารณาร่วมกัน ก่อนลงมติร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง
