นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดยระบุว่า ในฐานะสมาชิกวุฒิสภาที่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง เห็นว่าความไม่แน่นอนตามแนวชายแดนส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง ทั้งด้านความมั่นคง การประกอบอาชีพ และรายได้ของครัวเรือน โดยเฉพาะจังหวัดชายแดนอย่างอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ซึ่งเศรษฐกิจในพื้นที่พึ่งพาการค้าชายแดน การท่องเที่ยว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับชุมชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ การที่สถานการณ์ยืดเยื้อ ทำให้ประชาชนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตหรือย้ายถิ่นฐานเป็นระยะ ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ชะลอตัว ดังนั้น รัฐบาลควรมีมาตรการเชิงรุกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจชายแดนควบคู่ไปกับการดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะการสร้างงาน การประกันรายได้ และการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถดำรงชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามถึงผลกระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง นพ.เปรมศักดิ์ แสดงความเห็นว่า โดยหลักการแล้ว การเลือกตั้งควรเป็นไปตามกำหนดเวลาเพื่อรักษาความต่อเนื่องของระบอบประชาธิปไตย แต่หากเกิดข้อจำกัดในบางพื้นที่ รัฐจำเป็นต้องบริหารจัดการภายใต้กรอบกฎหมายอย่างรอบคอบ เพื่อให้การใช้สิทธิของประชาชนเป็นไปอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม พร้อมเน้นว่าการสร้างบรรยากาศที่มั่นคงและลดความตึงเครียดในพื้นที่ จะช่วยให้การเลือกตั้งดำเนินไปอย่างเรียบร้อย
นพ.เปรมศักดิ์ ยังระบุว่า เสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่ต้องการเห็นความชัดเจนของแนวทางแก้ไขปัญหา และไม่ต้องการให้ความไม่แน่นอนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศในระยะยาว พร้อมเห็นว่าการคลี่คลายสถานการณ์อย่างสันติ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับชุมชน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน สำหรับบทบาทของวุฒิสภานั้น สมาชิกวุฒิสภาสามารถทำหน้าที่สะท้อนปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนผ่านการลงพื้นที่ การหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการทำงานของคณะกรรมาธิการ เพื่อเสนอแนวทางเชิงนโยบายต่อรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ โดยย้ำว่าการแก้ไขปัญหาชายแดนควรคำนึงถึงความมั่นคงควบคู่กับคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง