16 ก.ค. 68 - ประธานวุฒิสภา ให้การรับรอง เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์ก ประจำประเทศไทย กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน

image

          นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองนายแดนนี แอนนัน (H.E. Mr. Danny Annan) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับเดนมาร์ก โดยมีพลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพดล อินนา รองประธานกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล และรองประธานคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสหภาพรัฐสภา (IPU) นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ รองประธานกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมให้การรับรอง
          ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเดนมาร์กที่แน่นแฟ้นและมีความใกล้ชิดยาวนานกว่า 400 ปี พร้อมกล่าวยินดีที่ทราบว่าเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตฯ มีโอกาสได้พบหารือกับนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) รวมถึงการส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียม และการพัฒนาระบบสุขภาพระหว่างทั้งสองประเทศเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนของทั้งสองประเทศ
          ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพดล กล่าวเพิ่มเติม ประเด็นความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศในกรอบสหภาพรัฐสภา (IPU) รวมถึง ประเด็นที่ไทยอยู่ระหว่างกระบวนการเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งไทยมีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกับประเทศสมาชิก OECD ทั้งด้านประชาธิปไตย หลักนิติรัฐ สิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจตลาดแบบเปิดและเสรี และการเปลี่ยนผ่านสีเขียว นอกจากนี้ นายวีระพันธ์ ได้กล่าวชื่นชมเอกอัครราชทูตฯ ที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐสภาไทยให้ความสำคัญในประเด็นนี้เช่นกัน โดยได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนรัฐสภาสีเขียวและกำหนดเป้าหมายการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2575 ซึ่งเป็นสาขาที่เดนมาร์กมีความเชี่ยวชาญอย่างยิ่ง จึงหวังว่าทั้งสองประเทศจะร่วมยกระดับความร่วมมือในสาขาดังกล่าวต่อไป
          ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน รวมถึงมีการค้าและการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ มีบริษัทสัญชาติเดนมาร์กเข้ามาลงทุนในไทยมากกว่า 100 บริษัท ส่งผลให้มีการจ้างแรงงานไทยกว่า 50,000 คน พร้อมกล่าวสนับสนุนการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป เพื่อเป็นการผลักดันความร่วมมือทางการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลไทยและเดนมาร์กมีการเจรจาเพื่อยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในอนาคต ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวยืนยันว่าในช่วงระยะเวลา 3 ปี ในการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์กประจำประเทศไทยจะทำหน้าที่ส่งเสริมและยกระดับความร่วมมือระหว่างเดนมาร์กกับไทยให้มั่นคงและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป

สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ข้อมูล / ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ