นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล โฆษกคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจากนายประสิทธิ์ อินทร์ฮะ ตัวแทนชาวบ้านเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขอให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบกรณีกรมธนารักษ์ขึ้นทะเบียนที่ดินแปลงเลขที่ สฎ. 548 บนเกาะเต่า เป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งชาวบ้านระบุว่าทับซ้อนกับพื้นที่ที่ชาวบ้านครอบครองและทำกินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกินของราษฎรเกาะเต่ามาอย่างยาวนาน แต่กลับถูกขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุทั้งแปลง โดยไม่มีการสอบถามความคิดเห็นหรือพิจารณาประวัติการครอบครองของประชาชนในพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและไม่มีความมั่นคงในสิทธิครอบครองที่ดิน ซึ่งที่ผ่านมา ชาวบ้านได้พยายามร้องเรียนกับหน่วยงานภาครัฐหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2546 โดยมีการตรวจสอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี ซึ่งสรุปว่าพื้นที่ที่ควรเป็นที่ราชพัสดุ มีเพียงบริเวณเรือนจำเดิมประมาณ 35 ไร่เท่านั้น ส่วนที่เหลือควรคืนให้ชาวบ้าน ซึ่งปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ต่อมาในปี 2561 ชาวบ้านได้ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 จนมีคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อหาข้อเท็จจริง และในเวลาต่อมา ศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนการขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุในส่วนที่ทับซ้อนกับที่ดินที่ประชาชนครอบครองอยู่ และให้มีผลย้อนหลัง พร้อมทั้งห้ามดำเนินการตามประกาศให้ราษฎรเช่าที่ราชพัสดุในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน จึงขอให้คณะกรรมาธิการที่ดินฯ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงการคลังและกรมธนารักษ์ เพื่อให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล และยุติกระบวนการอุทธรณ์ พร้อมนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์อย่างเป็นธรรม เพื่อให้ชาวบ้านสามารถอยู่อาศัยและทำกินบนพื้นที่เกาะเต่าได้อย่างมั่นคงต่อไป
ด้าน โฆษกคณะกรรมาธิการการที่ดินฯ กล่าวภายหลังว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ พร้อมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทางแก้ปัญหาต่อไป
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
