นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงกรณี 3 สส. พรรคภูมิใจไทย โหวตสวนมติพรรคในการถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ตนไม่อยากให้มีความเข้าใจผิดในสังคม จึงขอแสดงจุดยืนและชี้แจงว่าตนในฐานะเลขาธิการพรรค เห็นว่าพฤติกรรมของทั้ง 3 คน ในวันนั้น มีการนั่งรวมตัวกัน และปลีกตัวออกมาจากพรรค ก่อนจะโหวต และที่บอกว่าเป็นการโหวตผิด ตนไม่เชื่อ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม โดยมีกระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด และสำหรับพรรค ครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าเรื่องงูเห่า สถานการณ์การเมืองปัจจุบันที่มีข้อกังวลว่าพรรคแกนนำและรัฐบาลถูกครอบงำ และกำลังถูกประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอยู่ว่าผู้ครอบงำเป็นภัยต่อประเทศหรือไม่ ซึ่งพรรคอยู่ร่วมรัฐบาลกับข้อสงสัยนี้ไม่ได้
นายไชยชนก ยืนยันด้วยว่า ต้องให้ความเป็นธรรม หากยังไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ยิ่งใหญ่ จึงเป็นเหตุผลว่าพรรคต้องตรวจสอบให้ละเอียด และตั้งคณะขึ้นมาตรวจสอบ เป็นบุคคลที่พรรคมั่นใจว่าเป็นเลือดแท้ของพรรค และอาจจะมีสถานการณ์คล้าย ๆ แบบนี้อีกในอนาคต
ส่วนหลังจากนี้พรรคจะมีมาตรการปิดกั้นไม่ให้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ นายไชยชนก ระบุว่า ปิดกั้นไม่ได้ วิธีเดียวที่จะปิดกั้น คือ จากตัว สส. แต่ละคนเอง ที่ต้องมานั่งคิดและพิจารณาว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมืองหรือไม่ หากใช่ ก็เชื่อว่าไม่มีใครตัดสินใจจะรับเงินในสถานการณ์นี้ หรือเปลี่ยนไปสนับสนุนรัฐบาล ส่วนที่มีสัญญาณว่าอาจมีเหตุการณ์คล้าย ๆ แบบนี้ เกิดขึ้นอีก ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งทราบว่ามีการพูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว และเครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนเลย คือ ความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาล และอาจต้องมีหลายวิธีการเพิ่มเติม
นายไชยชนก ยืนยันอีกว่า หากตรวจสอบพบมีหลักฐานชัดเจนก็ต้องดำเนินการขับออกจากพรรค ส่วนในเรื่องของคดีก็จะมีการดำเนินทางกฎหมายเช่นกัน
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง
