22 เม.ย. 67 - ประธานกรรมาธิการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร จี้รัฐให้ความสำคัญ สวัสดิการเด็กแรกเกิดถ้วนหน้า ชี้คุ้มค่า สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

image

          นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานกรรมาธิการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวในเวทีเสวนาหัวข้อ พลวัตสังคมการเมือง เส้นทางการขับเคลื่อนนโยบายเด็กเล็กถ้วนหน้า (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) ว่า ขณะนี้มีงบประมาณที่ตกหล่นตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ในงบประมาณประจำปี 2567 มีการจัดสรรงบประมาณ 17,000 ล้านบาท ให้เด็ก 2.5 ล้านคน แต่มีเด็กที่เข้าเกณฑ์รับเงิน 600 บาทต่อเดือน มากกว่า 4 ล้านคน หมายความว่า ตั้งแต่เริ่มอนุมัติงบประมาณ มีเด็กแรกเกิดตกหล่นอย่างแน่นอนถึง 1.5 ล้านคน เท่ากับว่าการได้รับสวัสดิการแรกเกิดจากรัฐขึ้นกับโชคชะตาใช่หรือไม่ ในช่วงบั้นปลายของชีวิตก็เหมือนกัน เงินฌาปนกิจตกหล่นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้จะไปถูกพูดถึงอีกครั้งตอนเลือกตั้ง ผ่านนโยบายอุดหนุนเงินแรกเกิด หากย้อนกลับไปดูทุกพรรคเสนอเหมือนกันหมดว่าต้องให้ถ้วนหน้า มองเห็นความสำคัญของการจัดสรรงบประมาณไปลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ แต่หลังเลือกตั้ง มีอำนาจในการบริหาร มีอำนาจในการจัดสรรงบประมาณและมีอำนาจเคาะนโยบายที่สำคัญ กลับไม่ทำให้เกิดขึ้นอย่างถ้วนหน้า

          นายณัฐชา ยังกล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ใช้งบประมาณมากถึง 500,000 ล้านบาท รัฐบาลบอกทำได้ หาเงินได้ แต่เหตุใดเมื่อเป็นโครงการที่เกี่ยวกับสวัสดิการประชาชน ไม่ว่าเกิดหรือตายจึงไม่พยายามทำให้เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ ขอย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนในเด็กว่า หากเทียบกับความมั่นคงทางยุทโธปกรณ์ที่ลงทุนมากกว่า 200,000 ล้านบาท แต่ในการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์กลับไม่ถึงแสนล้านบาท ทั้งที่มีความสำคัญที่สุด เพราะหมายถึงพัฒนาการของเด็กที่จะเติบโตขึ้น หากเด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก็จะเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพไปพัฒนาประเทศได้ในอนาคต ซึ่งหมายถึงการเติบโตของเศรษฐกิจและด้านอื่น ๆ ที่จะตามมา

 

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ