นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาข้อมูลและสถิติคดีความผิดอันเนื่องมาจากแรงจูงใจทางการเมือง ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ร่วมกันแถลงผลการประชุม ว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย. 67) กมธ.จะพิจารณาผลการศึกษา ของคณะอนุกมธ. ฯ ซึ่งเบื้องต้นมีผลการศึกษประเด็นการกำหนดความผิดอันเนื่องมาจากแรงจูงใจทางการเมือง ที่พบว่ามี 25 ฐานความผิด ซึ่งจะกำหนดบัญชีท้ายพ.ร.บ. โดยได้พิจารณามาจากการพิจารณาในกระบวนการยุติธรรม การพิจารณาจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสันติสุข พ.ศ. .... ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอ กับ ฐานคดีความผิดทางการเมืองตั้งแต่ พ.ศ. 2557 – พ.ศ. 2567 ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และเพิ่มกฎหมายที่มีความเกี่ยวเนื่องกับแรงจูงใจทางการเมือง เพื่อให้ครอบคลุมการกระทำความผิดอันเนื่องมาจากแรงจูงใจทางการเมือง ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 จนถึง 2567
นายนิกร กล่าวด้วยว่า คณะอนุกรรมการฯ ยังรวมฐานความผิดจากเหตุการณ์การชุมนุมครั้งสำคัญ คือ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) พ.ศ. 2548 ถึง พ.ศ. 2551 การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พ.ศ. 2550 ถึง พ.ศ. 2553 (รวมแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ นปก.) การชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) พ.ศ. 2556 ถึง พ.ศ. 2557 และการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชน ตั้งแต่ พ.ศ. 2563 ถึงปัจจุบัน
ส่วนกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้าข่ายถูกนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น นายนิกร กล่าวว่า ในคณะอนุกรรมาธิการฯ ไม่ได้พิจารณาเป็นรายบุคคล แต่หากจะพิจารณา ต้องดูว่า เข้าเงื่อนไขหรือไม่คือ ระยะเวลาที่เสนอไปตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน เพราะหากเกิดก่อน ปี2548 ถือว่าไม่เข้า ฐานความผิดที่ขนาดนี้มีอยู่ 25 ฐานความผิด ไม่ครอบคลุมคดีที่ว่า เพราะไม่ได้พิจารณาเป็นรายบุคคล มีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องพิจารณา ซึ่งทั้งหมดนี้จะอยู่ในคณะอนุกรรมาธิการที่มีนายยุทธพร อิสรชัย เป็นประธานอนุกมธ.
ณรารัฏฐ์ โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง
