16 เม.ย. 67- สว.รณวริทธิ์ วอนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แก้ปัญหาการกำจัดกากแคดเมียมอย่างเร่งด่วน หลังพบมีขบวนการลักลอบจำหน่ายกากแคดเมียมและรั่วซึมไปยังโดยรอบชุมชนและพื้นที่การเกษตร

        นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขอปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านที่ประชุมวุฒิสภาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง ผลกระทบของกากแคดเมียมต่อภาคการเกษตร ว่า ตามที่มีการรายงานข่าวพบกากแคดเมียม (Cadmium) ในถุงบิ๊กแบ็กตามโรงงานและโกดังทั้งในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และ จ.ชลบุรีอย่างต่อเนื่อง และมีข้อกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบนั้น กากแคดเมียม ถือว่าเป็นขยะพิษและเป็นกากอุตสาหกรรมที่เกิดจากการถลุงเหล็ก สังกะสี และแมงกานีส ซึ่งการทำลายกากแคดเมียมจะต้องฝังกลบอย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตาม ได้พบปัญหาการรั่วซึมของกากแคดเมียมในเขต อ.แม่สอด อ.พบพระ อ.แม่ระมาด อ.ท่าสองยาง จ.ตาก มาโดยตลอด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปลูกพืชผักที่เจริญเติบโตได้ดีในฤดูหนาวที่ใช้สำหรับบริโภค สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และทดแทนการปลูกฝิ่น แต่ผลผลิตทางการเกษตรของเขตพื้นที่นั้นได้สร้างความหวาดระแวงให้กับผู้บริโภคมาโดยตลอด จากนั้นได้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งได้นำกากแคดเมียมที่ฝังกลบแล้ว นำมาจำหน่ายในหลายจังหวัด เป็นการขยายการรั่วซึมให้เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ปัญหาที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมกรรมดังกล่าว ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยเฉพาะ จ.สมุทรสาครมีค่าฝุ่น PM 2.5 มากกว่า 40,000 ตันต่อปี และหากมีการถลุงหลอมแคดเมียมจะทำให้มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 เพิ่มมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาคการเกษตรทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ไม่เกิน 500 ตันต่อปี

        นายรณวริทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนมีข้อเสนอแนะไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้บริหารจัดการกากแคดเมียมอย่างเร่งด่วน และรอบคอบ พร้อมทั้งลงโทษผู้ลักลอบจำหน่ายกากแคดเมียมอย่างจริงจัง ตลอดจนหามาตรการและแนวทางการบริหารจัดการเรื่องฝุ่น PM 2.5 ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งสร้างความรู้ ความความเข้าใจ เรื่องฝุ่น PM 2.5 อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ควรให้เป็นความผิดของการภาคเกษตร

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ